ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายพันศักดิ์ คำยา อายุ 31 ปี ชาวบ้านม่วง หมู่ 13 ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบริเวณถนนลาดยาง ช่วงรอยต่อระหว่างบ้านม่วง ต.บ้านทุ่ม กับ บ้านสาวถี ต.สาวะถี อ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นจุดที่มีคนนำเอาตะปูมาโรยไว้บนถนน ทำให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์บนถนนเส้นนี้ในการสัญจรผ่านไปมา ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากรถไปเหยียบตะปูจนเกิดยางรั่วจนต้องเปลี่ยนยางรถใหม่มาแล้วหลายราย แม้ว่าชาวบ้านที่สังเกตเห็นตะปูตกอยู่อยู่ แล้วช่วยกันเก็บออก แต่ผ่านไปไม่กี่วันก็ยังพบว่าตะปูโรยอยู่ใกล้กับบริเวณเดิม

          

นายพันศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่กำลังขับรถจักรยานยนต์กลับจากทุ่งนาในช่วงกลางวัน โดยระหว่างขับมาตามไหล่ทางมุ่งหน้าจะเข้าหมู่บ้าน ก็พบว่ามีตะปูขนาดเล็กตกอยู่บนถนนจำนวนมาก จึงจอดรถลงไปดูก็พบว่าเป็นตะปูใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ด้วยความที่กลัวว่าจะมีผู้ใช้ถนนคนอื่นๆขับรถมาเหยียบ จึงเดินเก็บตะปูที่ตกอยู่ไปเรื่อยๆจนได้ตะปูรวมแล้วเกือบ 2 กำมือ และในวันถัดมาก็มีชาวบ้านมาพบตะปูโรยอยู่ใกล้กับจุดเดิมอีก จึงคาดว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีนำมาโรยไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น บางคนต้องรีบไปทำธุระแต่ก็ต้องมาเสียเวลาและเสียเงินเพราะรถยางรั่ว

          

ด้านนายมานะ ธรรมโคตร ผู้ใหญ่บ้านม่วง หมู่ 13 ต.บ้านทุ่ม เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มีชาวบ้านเข้ามาแจ้งเรื่องร้องทุกข์ว่ารถจักรยานยนต์ยางรั่วจากการขับเหยียบตะปู หลังจากขับผ่านถนนเส้นดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 10 ราย บางคนนำตะปูที่เก็บได้เต็มกำมือมาไว้ให้เป็นหลักฐาน แม้กระทั้งตนเองก็ยังเคยประสบเหตุมาแล้วจนต้องได้เปลี่ยนยางรถจักรยานยนต์ ทั้งยางนอกและยางในใหม่ จากการตรวจสอบตะปูที่ชาวบ้านและผู้เสียหายเก็บมาให้พบว่า เป็นตะปูขนาดเดียวกันทั้งหมดและเป็นตะปูใหม่ที่ไม่ผ่านการใช้งาน โดยตนเองคาดว่าผู้ที่นำตะปูมาโรยไว้น่าจะเป็นกลุ่มคน 2 กลุ่มคือ วัยรุ่นที่เกิดความคึกคะนอง และผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่รถยางรั่ว ไม่น่าจะเป็นตะปูที่ตกหล่นโดยบังเอิญ เพราะหลังจากที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บออก ก็ยังกลับมาพบอีกในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งตนเองในฐานะผู้นำชุมชนจึงได้มีการประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านช่วยกันเป็นหูเป็นตา และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน หากใครที่พบเห็นบุคคลที่นำตะปูมาโรยไว้ขอให้รีบแจ้งมาที่ตนเองทันที เพื่อจะได้ประสานตำรวจในพื้นที่ให้ทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดี