วันที่ 5 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางสาวมะลิ แสนสิงห์ อายุ 25 ปี อดีตแม่บ้านสาว กศน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 2 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และเข็มแรก ยี่ห้อ ซิโนแวค โดยที่ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าตั้งท้องได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ซึ่งหลังกลับจากการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลได้มีอาการเวียนหัว เป็นไข้ หนาวสั่น และมีเลือดไหลออกจากบริเวณช่องคลอด เมื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์พบว่ามีสภาวะอาการแท้งคุกคาม และได้สูญเสียลูกไปในที่สุด หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว และได้ออกมาพักฟื้นที่บ้านหาดขาม หมู่ 3 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้น

 

 

คืบหน้าล่าสุด นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(นพ.สสจ.ปข.) เปิดเผยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า กรณีนางสาวมะลิ แสนสิงห์ อายุ 25 ปี ที่เจ้าตัวมีความสงสัยว่ากรณีที่ตนเองแท้งลูกอาจเกิดมาจากผลพวงจากการฉีดวัคซีน โดยที่ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่าได้ตั้งท้อง และไปเข้ารับการฉีดวัคซีน นั้น ซึ่งยังไม่ได้มีผลการยืนยันจากนักวิชาการที่เชี่ยวชาญส่วนกลาง แต่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปตรวจเยี่ยมดูอาการและทำประวัติเอกสารยื่นขอรับการเยียวยาจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สป.สช.) เพื่อพิจารณาไปแล้ว แต่ยังส่งไม่ทันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทาง สป.สช.จะมีการประชุมพิจารณาทุกๆวันอังคาร ซึ่งกรณีของนางสาวมะลิ คงจะต้องรอเป็นวันอังคารหน้าถึงจะรู้ผล ส่วนจะได้รับการชดเชยเยียวยา หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรอบข้อกำหนดของ สป.สช.ว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่ และจะได้รับจำนวนเท่าไร แต่โดยปกติถ้าเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนจริง หากมีการเสียชีวิตจะได้รับเงินประมาณ 4 แสนบาท หากได้รับผลกระทบเล็กๆน้อยๆจะได้รับประมาณ 3,000 บาท ซึ่งกรณีของนางสาวมะลิ ยังไม่เคยมีปรากฏมาก่อน จึงไม่ทราบว่าจะเข้าเกณฑ์หรือไม่ และจะได้รับเงินเยียวยาสักเท่าไหร่ ซึ่งต้องรอผลในวันอังคาร ที่ 9 ส.ค.64 นี้ นายแพทย์ สสจ.กล่าว/////