เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศบค.เล็งยกระดับมาตรการสกัดโควิด หลังเคอร์ฟิว 5 วัน สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง


16 ก.ค. 2564, 15:22



ศบค.เล็งยกระดับมาตรการสกัดโควิด หลังเคอร์ฟิว 5 วัน สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง




วันนี้ 16 ก.ค. 64 ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายหลังออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา

ล่าสุดเมื่อช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงผลการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดมาเป็นเวลา 5 วัน นำไปสู่ข้อสรุปว่าอาจจะจำเป็นต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจจะจำเป็นต้องสั่งปิดกิจการบางอย่าง เพื่อให้เป็นการปิดได้อย่างมากที่สุด หนึ่งในสาเหตุของข้อสรุปดังกล่าวสืบเนื่องมาจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งแจ้งเข้ามาว่า ยังมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไป ซึ่งทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดไม่สัมฤทธิ์ผล



ทั้งนี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ยังระบุว่า แม้จะนำมาตรการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด มาใช้ได้เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าน่าเป็นห่วง ดังนั้น ผอ.ศบค. ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ที่ปรึกษาทบทวนมาตรการด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นขึ้นเพื่อนำเสนออย่างเร่งด่วน

“มาตรการล็อกดาวน์ที่มีการประกาศไป เป็นไปตามสถานการณ์ ตามพื้นที่ 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่จากการทบทวนมาตรการ ยังเห็นว่ามีความน่าเป็นห่วง ทำให้อาจจะปิดมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น ขอให้ติดตามในเร็วๆ นี้” 


ทั้งนี้ มีการหารือใน 2 เรื่องใหญ่ คือ ตรวจหาเชื้อ และการรักษาในภาวะทรัพยากรอย่างจำกัด โดยการตรวจหาเชื้อใน ปัจจุบันวันละ 7 -8 หมื่นคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงให้ตรวจด้วย Antigen test kit เพื่อให้เข้าถึงมากขึ้น ทั้งมีความจำเป็นต้องสงวนเตียงสำหรับกลุ่มอาการรุนแรง จึงให้แยกกักที่บ้าน หรือ ศูนย์ดูแล สำหรับกลุ่มอาการน้อยหรือไม่มีอาการ โดยชุดตรวจ Antigen test kit อนุญาตให้ขายในร้านขายยา เพื่อมีเภสัชกรให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง

และในที่ประชุม ยังมีมติเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนใช้สูตรผสม เป็นซิโนแวค เข็มที่ 1 และ แอสตร้าเซเนกา เป็นเข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 3 -4 สัปดาห์ หรือ แอสตร้าเซเนกา 2 เข็ม
 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.