เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ปลัด สธ." แนะสวมหน้ากากฯ ภายในบ้าน ลดการแพร่เชื้อโควิดให้บุคคลในครอบครัว


1 ก.ค. 2564, 11:24



"ปลัด สธ." แนะสวมหน้ากากฯ ภายในบ้าน ลดการแพร่เชื้อโควิดให้บุคคลในครอบครัว




เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว ชุมชน หรือ ออฟฟิศ ร้อยละ 74 ส่วนที่เหลือในรูปแบบคลัสเตอร์ โรงงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ทั้งนี้หลายจังหวัดยังพบการติดเชื้อในโรงงานและสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือผู้ที่ออกไปทำงานนอกบ้าน หรือมีกิจกรรมอื่น ๆ เมื่อกลับถึงบ้าน ต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที และให้ทุกคนในครอบครัวสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง แยกสำรับอาหาร งดการกินอาหารร่วมกันไปอีกระยะหนึ่ง หากมีความจำเป็นต้องไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ขอให้เว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย ไม่สัมผัสใกล้ชิด



สำหรับพนักงานในออฟฟิศให้งดรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่พูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่แออัด พลุกพล่าน ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่-รับเชื้อ COVID-19 สำหรับแรงงานกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ที่อาจติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการก่อนเดินทาง แม้ยังไม่พบการแพร่กระจายเชื้อออกสู่ชุมชน ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคดำเนินการเชิงรุก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. ร่วมกันเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าว ไม่ให้มีการเคลื่อนย้าย รวมทั้งแจ้งเจ้าของโรงงาน ผู้ประกอบการ ดำเนินการมาตรการ Bubble and Seal ในกลุ่มโรงงานต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่พบการติดเชื้อ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันโรค ควบคุมการเดินทางของแรงงานระหว่างบ้านและโรงงานอย่างเคร่งครัด ขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงการไปตลาด ชุมชนแออัด งดกิจกรรมรวมกลุ่มทุกชนิด และรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค โดยเลื่อนนัดฉีดวัคซีนจากเดือน ส.ค. เป็นเดือน ก.ค. ส่วนศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงให้ประสานกับโรงพยาบาล เพื่อขอรับการฉีดวัคซีน โดยตั้งเป้าจะฉีดให้ครอบคลุมกลุ่มนี้ให้ได้ร้อยละ 50 ในสิ้นเดือน ก.ค. และได้เตรียมเพิ่มเป้าหมายฉีดในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ในลำดับต่อไป เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.