เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สธ.ย้ำให้ความสำคัญการตรวจสอบ-ป้องกันอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน


17 มิ.ย. 2564, 14:50



สธ.ย้ำให้ความสำคัญการตรวจสอบ-ป้องกันอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน




วันนี้ (17 มิถุนายน 2564) เวลา 12.30 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนว่าขณะนี้ ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 7 ล้านโดส ถือว่าเป็นจำนวนที่มากพอสมควร ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 โดยแบ่งได้ ดังนี้

- วัคซีนซิโนแวค ฉีดสะสมจำนวน 3,214,385 โดส โดยมีอาการไม่พึงประสงค์ที่มีอาการและต้องรับรักษาเป็นผู้ป่วยในจำนวน 993 ราย คิดเป็นอัตราผู้มีอาการ 20 รายต่อการฉีดแสนโดส ทั้งนี้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ เวียนศีรษะ 20% คลื่นไส้ 15% ปวดศีรษะ 12% อาเจียน 8% ผื่น 7% ปวดกล้ามเนื้อ 6% ท้องเสีย 5% และคัน 4%

- วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ฉีดสะสมจำนวน 1,943,693 โดส โดยมีอาการไม่พึงประสงค์ที่ต้องเข้ารับรักษาเป็นผู้ป่วยใน 472 ราย คิดเป็นอัตราผู้มีอาการ 24 รายต่อการฉีดแสนโดส ถือว่ามีจำนวนมากกว่าซิโนแวคเล็กน้อย ทั้งนี้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้ 31% ปวดศีรษะ 27% เวียนศีรษะ 21% คลื่นไส้ 21% อาเจียน 20% ปวดกล้ามเนื้อ 15% อ่อนเพลีย 13% และถ่ายเหลว 7%



เมื่อวาน (16 มิถุนายน 2564) คณะผู้เชี่ยวชาญส่วนกลาง (คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค) ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการเสียชีวิตภายหลังได้รับวัคซีน จำนวน 68 ราย โดยมีจำนวนที่พิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว 13 ราย โดยไม่มีรายใดเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวกับวัคซีน (coincidential event) ทั้งนี้แบ่งเป็น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 ราย, การเป็นจ้ำเลือด 1 ราย, ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 ราย, เยื่อสมองอักเสบเป็นหนอง 1 ราย, เลือดออกในช่องท้อง 1 ราย และเลือดออกในสมองเนื่องจากความผิดปกติของเส้นเลือดสมอง 1 ราย ทั้งนี้ เหลือจำนวนผู้เสียชีวิตที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค หรือชันสูตรศพอีก 55 ราย
 
ทั้งนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีการพิจารณาแบ่งผลการพิจารณาเป็นประเภท ดังนี้ 1. เกี่ยวข้องกับวัคซีน 2. เกี่ยวข้องกับคุณภาพของวัคซีน 3. เกี่ยวข้องกับการให้บริการการฉีดวัคซีน 4. เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน 5. เป็นเหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนแต่บังเอิญเกิดร่วมกัน 6. ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน และ 7. ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะสรุป
นายแพทย์ เฉวตสรรฯ ได้ยกตัวอย่างว่าการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีนมีในทุกประเทศ ยกตัวอย่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีประชากรประมาณ 328 ล้านโดส อัตราการเสียชีวิตปีละ 3.3 ล้านคน ขณะนี้ฉีดวัคซีนแล้ว 312 ล้านโดส มีรายงานการเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน ตั้งแต่ 14 ธันวาคม 63 - 3 พฤษภาคม 64 (ฉีดวัคซีน 259 ล้านโดส) จำนวนผู้เสียชีวิต 4,173 ราย โดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่ได้ตรวจสอบภายหลัง สรุปว่า ไม่ได้มีสาเหตุมาจากวัคซีนโควิด-19 แต่อย่างใด


เช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งมีประชากรประมาณ 70 ล้านคน ข้อมูลการเสียชีวิตประมาณปีละ 5 แสนกว่าคน ซึ่งในการพิสูจน์สาเหตุของกรรมการหลายกรณีอาจต้องเทียบกับอัตราการเสียชีวิตของสาเหตุนั้น ๆ หรืออัตราการเสียชีวิตภาพรวมของประเทศไทย เพื่อช่วยสรุปว่าอัตราการตายเพิ่มขึ้นหรือเกี่ยวโยงภายหลังจากมีการเริ่มฉีดวัคซีนหรือเปล่า
 
นายแพทย์ เฉวตสรร ยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน หากมีข้อมูลใดต้องนำมาพิสูจน์ทราบเพื่อให้เกิดความชัดเจน เราจะพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดเพื่อข้อสรุปที่น่าเชื่อถือ ตอนนี้วัคซีนยังถือว่ามีความปลอดภัย เช่นเดียวกับวัคซีนหลายยี่ห้อที่ฉีดทั่วโลก






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.