เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ทบ.ระดมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโรงเรียนทั่วไทย สร้างความมั่นใจแก่ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง


14 มิ.ย. 2564, 12:01



ทบ.ระดมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโรงเรียนทั่วไทย สร้างความมั่นใจแก่ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง




วันที่ 14 มิถุนายน 2564 พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้หน่วยทหารนำกำลังพล ยุทธโปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และปรับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้สะอาดเตรียมรับการเปิดเรียนในวันที่ 14 มิ.ย.64 นี้ 

โดยที่ผ่านมา กองทัพบกได้จัดชุดปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกำลังพลจิตอาสาลงพื้นที่ชุมชน วัด และสถานศึกษา เข้าทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อเตรียมอาคารสถานที่ภายในโรงเรียนให้สะอาด ถูกสุขอนามัย ตลอดจนร่วมบูรณาการกับทางโรงเรียน, ชุมชน, สำนักงานเขต, เทศบาล และ อบต. ดำเนินกิจกรรม Big cleaning ทำความสะอาดพร้อมปรับภูมิทัศน์ของโรงเรียนควบคู่กันไปด้วย ทำให้สถานที่ภายในโรงเรียนโดยเฉพาะจุดที่ต้องมีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ห้องเรียน, โรงอาหาร, ห้องสุขา ลานกิจกรรม,สนามเด็กเล่น และพื้นที่ส่วนรวมภายในโรงเรียนให้มีความสะอาดปลอดภัย ลดการสะสมและการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร ครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ปกครองในการใช้สถานที่ทำการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ม.ค.64 จนถึงปัจจุบัน ใน 428 พื้นที่ และ 240 โรงเรียนทั่วประเทศ อาทิ กทม., นนทบุรี, นครนายก, ลพบุรี, ราชบุรี, ปราจีนบุรี, นครราชสีมา, ร้อยเอ็ด, พิษณุโลก, ตาก, น่าน, เพชรบูรณ์, เชียงใหม่ เป็นต้น



ขณะที่สวนดุสิตโพลได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อบทบาทของกองทัพบกในสถานการณ์โควิด-19 ช่วง 26 พ.ค. – 4 มิ.ย.2564 ซึ่งผลสำรวจระบุว่า ประชาชนรับรู้ในบทบาทของกองทัพบกที่ได้มีการตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อ, ภารกิจสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการส่งกำลังพลช่วยสร้างโรงพยาบาลสนามให้กับรัฐบาล 

นอกจากนี้โพลยังระบุว่า ประชาชนพึงพอใจเรื่องการบริจาคโลหิตของหน่วยทหาร ที่ช่วยแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนโลหิต และบทบาทในการช่วยสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลประชาชน ซึ่งถือว่าผลการสำรวจดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจหรือความรู้สึกของประชาชน รวมถึงมุมมองที่มีต่อกองทัพบกในสถานการณ์วิกฤตของประเทศได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามบทบาทและการนำศักยภาพของกองทัพบกเข้าไปดำเนินการเรื่องโควิด-19 นี้เป็นไปตามนโยบายและเจตนารมณ์ของผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ รวมทั้งการทุ่มเทเสียสละของกำลังพลในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ภายใต้การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ มุ่งหวังให้ประชาชนได้บรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น 


ทั้งนี้กองทัพบกจะได้นำผลสรุปความคิดเห็นประชาชนดังกล่าว ไปปรับเพิ่มแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อใช้สนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์โควิด-19 ในระยะต่อไป อย่างไรก็ตามการใช้ศักยภาพของกองทัพบกในการดูแลช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทุกภาคส่วนในสถานการณ์โควิด-19 ได้ดำเนินการในทุกมิติ ทั้งด้านการรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรค การบรรเทาผลกระทบที่เกิดกับประชาชน เกษตรกร การมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อการดำรงชีวิต และการมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ และล่าสุดคือการรณรงค์ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนเรื่องการฉีดวัคซีน สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกภารกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพคือ ความเข้มงวดและดูแลให้กำลังพลให้มีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่มีการติดเชื้อ ภายใต้มาตรการพิทักษ์พลเพื่อดำรงความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 ได้โดยต่อเนื่องจนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติ

 

ที่มา naewna






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.