เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รอง ผบช.ภ.7 แถลงจับแรงงานต่างด้าว 77 คน ลักลอบเข้าไทย


12 พ.ค. 2564, 16:34



รอง ผบช.ภ.7 แถลงจับแรงงานต่างด้าว 77 คน ลักลอบเข้าไทย




เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 12 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.ทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่แถลงข่าวจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 77 คน และมีผู้นำพา จำนวน 1 คน ที่บริเวณบ้านห้วยอู่ล่อง หมู่ที่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย

1. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน 

2. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง

3. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็คซ์ สีบรอนซ์เทา

4. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน สีดำ

โดยมี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.ท.สุพงศ์สิทธิ์ แจ้งพันธ์ ผบ.ร้อย ตชด.135, นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอำเภอชำนาญการพิเศษ, พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ร่วมแถลงฯ

พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งการให้พื้นที่ติดบริเวณแนวชายแดนมีมาตรการป้องกันปราบปราม จับกุม และสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกัน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งอาจจะติดมาจากบุคคลต่างด้าวดังกล่าว

โดยพฤติการณ์เมื่อวันที่ 11 พ.ค.64 เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า เจ้าหน้าที่กองกับการสืบสวนกาญจนบุรี เจ้าตำรวจสันติบาล จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.ทองผาภูมิ สืบสวนทราบว่า มีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาทางเรือโดยขึ้นมาจากท่าเรือขนุนคลี่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้บูรณาการกำลังสกัดจับ ตามเส้นทางหลบหนีทุกเส้นทางที่ออกจากบ้านขนุนคลี่

ต่อมาวันที่ 12 พ.ค.64 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำเส้นทางบ้านวังเกียง หมู่ 4 ต.ท่าขนุน ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 3 คัน ขับออกมาจากทางบ้านขนุนคลี่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถปิดเส้นทางแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นจับกุม ขณะนั้นรถคันที่ 1 (รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน) ได้เห็นเจ้าหน้าที่และเบรกอย่างแรง จากนั้นได้ขับถอยหลังอย่างเร็วได้ชนกับรถยนต์คันที่ 2 (รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ ) จนได้รับความเสียหาย โดยคันที่ 1 พลิกคว่ำในที่เกิดเหตุได้รับความเสียทั้งคัน คนขับสามารถหลบหนีไปได้ ตรวจพบแรงงานต่างด้าวในรถ จำนวน 19 คน มีผู้บาดเจ็บ 6 คน ได้ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทองผาภูมิ รถคันที่ 2 ตกลงข้างทางได้รับความเสียหายด้านหน้า คนขับสามารถหลบหนีไปได้ ตรวจพบแรงงานต่างด้าว จำนวน 8 คน ส่วนคันที่ 3 (รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ ) เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไว้ได้พร้อมคนขับ ตรวจพบแรงงานต่างด้าว จำนวน 18 คน

จากการสืบสวนยังทราบว่ามีรถคันหนึ่งในขบวนการยังไม่ถูกตรวจพบ จึงได้ติดตามไปตามเส้นทาง ต่อมาเวลาประมาณ 08.00 น. ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะนิสสัน สีดำ  จอดอยู่ข้างทาง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าบริเวณชายป่าใกล้ๆ กันมีแรงงานต่างด้าว อยู่จำนวน 31 คน จึงร่วมกันจับกุม และยึดรถไว้ตรวจสอบต่อไป

สอบถามทราบว่าเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา เดินทางจากมะละแม่งใช้เวลา 2 วัน มาเข้าประเทศไทยที่ช่องทาง บ้านห้วยกบ เดินลัดเลาะป่ามาลงเรือท่าบ้านใหม่พัฒนา และ มาขึ้นเรือที่ บ้านขนุนคลี่ อ.ทองผาภูมิ จากนั้นนั่งรถต่อเพื่อไปขึ้นเขาเรด้า เดินลัดป่าไปออกที่บ้านหนองหญ้าบางองธิ หมู่ 2 ต.ท่าขนุน เพื่อเป็นหลบเลี่ยงด่านตรวจสามแยกทองผาภูมิ จากนั้นจะมีรถยนต์มารับไปส่งที่พื้นที่ตอนใน เสียค่าเดินทาง คนละ 16,000 บาท

ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดพบเห็น หรือทราบเบาะแสของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ขอให้ท่านโปรดแจ้งเบาะแส ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หรือผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจะได้ช่วยกันป้องกันปราบปราม และทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานทั้งหมดไปกักตัวไว้ที่ศูนย์กักตัวชั่วคราวที่วัดโชคผาสุกิจ หมู่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากไม่พบเชื้อจะกักตัวที่ศูนย์ดังกล่าวเป็นเวลา 2 วัน จากนั้นจะผลักดันทั้งหมดกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป

 

 



 

 

 


 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.