สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ระรอกที่ 3 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ทวีความรุนแรงและขยายวงกว้าง ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการฯ COVID - 19 จังหวัดสุพรรณบุรี รายงานสถานการณ์ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1เมษายน 2564 - 1 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยยืนยัน COVID-19 สะสม จำนวน 289 ราย และวันที่ 1 พฤษภาคม พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มอีก 26 ราย

 

 

ที่โรงพยาบาลศรีประจันต์ นายแพทย์สุธน ยุวศิรินันท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีประจันต์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ของโรงพยาบาลศรีประจันต์ มีผู้ติดเชื้อโควิด19 เข้ารักษาตัว และปกปิดข้อมูลทำให้ต้องสั่งปิดแผนกผู้ป่วยในตั้งแต่วันที่1-14 พฤษภาคม  พร้อมสั่งกักตัวบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 35 รายและตรวจคัดกรองบุคลากรของโรงพยาบาลรวมทั้งคนไข้จำนวน 75 ราย เพื่อความปลอดภัยจึงต้องปิดรับบริการผู้ป่วยใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะแผนกผู้ป่วยใน แต่ผู้ป่วยนอกเช่นผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยคลอดยังรับตามปกติส่วนที่ต้องปิดเพราะว่าเรายังมีคนที่มีเชื้ออยู่และบุคลากรของเราก็เป็นผู้ที่ไปสัมผัสกับผู้ป่วยก็จะเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง เราจึงต้องกักตัวบุคลากรของเราที่สัมผัสผู้ป่วยซึ่งผู้ป่วยอยู่กับเรา 5 วันซึ่งบุคลากรทั้งแพทย์พยาบาล รวม 35 คนเพราะฉะนั้นเราไม่สามารถให้บริการได้จึงต้องปิดรับผู้ป่วยในใหม่ส่วนผู้ป่วยที่ยังอยู่เราก็ยังรักษาจนกว่าจะหายและกลับบ้าน

เมื่อครบกำหนด14วันเราก็ต้องทำความสะอาดพื้นที่แผนกผู้ป่วยใน2 ทั้งหมดก่อนที่จะรับผู้ป่วยใหม่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ดังนั้นเราจึงต้องปิดรับบริการผู้ป่วยในแต่ยังให้บริการผู้ป่วยนอกตามปกติ ขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ของเราทั้งหมด รวมทั้งผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยที่อยู่ในหอผู้ป่วยในทั้งหมดรวม 75 รายเราได้ตรวจคัดกรองแล้วและวันที่ 14 ก็จะตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงสูง

 

 

สำหรับผู้ป่วยรายนี้เราซักถามประวัติการเดินทางรวมทั้งโรคประจำตัวประวัติส่วนตัวตามขั้นตอนจากกการซักถามหลายรอบว่าผู้ป่วยเดินทางไปไหนมาบ้างแต่ผู้ป่วยรายนี้ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ไปไหนแต่พอได้สอบถามทางญาติจึงทราบว่าผู้ป่วยรายนี้ชอบดื่มสุราหนักน่าจะเบลอก่อนหน้านี้ได้ไปขายพวงมาลัยที่กรุงเทพเมื่อวันที่16-19 เมษายน ที่ผ่านมาครั้งแรกเราคิดจะฟ้องดำเนินคดีแต่พอได้ข้อมูลจากทางญาติและด้วยหลักมนุษยธรรมแล้วคิดว่าเรารักษาคนไข้ให้ดีขึ้นก่อนแล้วค่อยมาว่ากันจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง และขอฝากถึงพี่น้องประชาชนและผู้ป่วยที่มารักษาขอให้แจ้งข้อมูลที่เป็นจริงกับเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลเราไม่ได้ปฏิเสธที่จะรักษาหากท่านมีประวัติเสี่ยงเราจะได้รีบค้นหาหรือแยกตัวไปรักษาในที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยของทุกคนทุกฝ่าย