เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



จับกุม ! "แรงงานเมียนมา" หลบหนีเข้าเมือง 38 คน ส่งกลับประเทศ


1 พ.ค. 2564, 12:51



จับกุม ! "แรงงานเมียนมา" หลบหนีเข้าเมือง 38 คน ส่งกลับประเทศ




วันที่ 1 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทหาร ฉก.ลาดหญ้า โดยชุดปฏบัติการทางน้ำ บ้านวังกะ ร่วมกับหน่วยงานความมันคงในพื้นที่  และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้จากการแจ้งเบาะแสของพลเมืองดีว่าจะมีการลำเลียงแรงงานต่างด้าวเข้ามาพักในพื้นที่  (เกาะเขาดึกดัก)  ซึ่งตั้งอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พิกัด MS 471591 ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณ 40 กม.  

 

หลังจากได้รับแจ้ง จ.ส.อ.อนุพงษ์ วัชรภาการุณย์ หน.ชุดปฎิบัติการทางน้ำ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าฯ จึงได้นำกำลัง เข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ในพิกัดที่ได้รับการแจ้งจากพลเมืองดี จนกระทั่งพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 38 ราย ขณะนั่งพักอยู่ในซอกเขา แบ่งเป็นชาย จำนวน  23 คน สอบถามทราบว่าเดินทางมาจาก จ.ย่างกุ้ง อีกจำนวน 10 คน เดินทางมาจาก จ. มะละแมง รัฐมอญ จำนวน 13 คน และหญิง จำนวน 15 คน เดินทางมาจาก จ.มะละแมง  ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธ์มอญ

 

ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า พวกตนเดินทางมาจาก อ.ตันบิวซายัต และ อ.พญาตองซู เมียนมา ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยมีผู้นำพา (ไม่ทราบชื่อสุกลและสัญชาติ) นำทางด้วยวิธีการเดินเท้าโดยใช้เส้นทางช่องทางธรรมชาติ จากบริเวณ บ.บ่อญี่ปุ่น สมม. ผ่าน บ.ห้วยกบ จากนั้นมีผู้นำพา (ไม่ทราบชื่อสุกลและสัญชาติ) อีก 1 คน ขับเรือมารับบริเวณประตูเมืองเก่า ไปขึ้นฝั่งบริเวณเกาะกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ แล้วแจ้งให้พวกตนพักคอยอยู่บริเวณนี้เพื่อรอการเคลื่อนย้าย จากนั้นผู้นำพาจึงได้ขับเรือกลับไป  ซึ่งแรงงานทั้งหมดออกเดินทางเท้าจากบ้านบ่อญี่ปุ่นประเทศเมียนมา ตั้งแต่เช้าวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา รวมระยะเวลา การเดินทางทั้งหมด 4 วัน 4 คืน โดยต้องคอยหลบเจ้าหน้าที่และใช้เส้นทางเดินลัดเลาภูเขาและข้ามแม่น้ำ ท่ามกลางฝนตก อดมื้อกินมือ จนเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพบ แรงงานที่เป็นผู้หญิงมีสภาพอิดโรย บางคนเริ่มมีไข้ จนแทบลุกขึ้นยืนไม่ไหว เพื่อนๆ ต้องช่วยกันประคอง

 

นาย บ่าว(นามสมมุติ) ชาวเมียนมา ที่ถูกจับกุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนต้องการไปทำงานในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จว.สมุทรสาคร, จว.นครศรีธรรมราช และ จว.สงขลา ซึ่งพวกตนต้องจ่ายค่าจ้างให้กับผู้นำพาเป็นเงิน จำนวน 14,000 15,000 บาท / คน เมื่อส่งถึงปลายทางหากรู้เช่นนี้คงไม่เดินทางมาอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ดีกว่า เพราะเวลานี้ในพื้นที่เมียนมา ทางทหารก็เข็มงวดหลังจากที่มีการยึดอำนาจ จากนางอองซาน ซู จี 

 

เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดนำลงเรือของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หน อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้สนับสนุนมาร่วมการตรวจจับในครั้งนี้เพื่อนำแรงงานทั้งหมดเดินทางมายังบริเวณท่าเรืออุทยานฯ หลังเจดีย์พุทธคยา หมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยเรือนานกว่า 1 ชม. เพื่อส่งตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 38 คน ให้แก่ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตม. และ ตำรวจ.สภ.สังขละบุรี เพื่อทำการผลักดันตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายฉกาจ อาสาสนะ ปลัดอาวุโส อ.สังขละบุรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี ดำเนินการนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดขึ้นรถ ของเจ้าหน้าที่เพื่อนำตัวไปส่งกลับประเทศต้นทาง ที่บริเวณ ซ.เกษตร 9 บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ต่อไป

 

เมื่อเดินทางมาถึงจุดตรวจบ้านน้ำเกิ๊ก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าการผลักดันในช่องทางเกษตร 9 ซึ่งเป็นช่องทางที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้าดูแลอยู่จำเป็นต้องประสานทางทหารพม่า กองพันที่ 31 เมืองพญาตองซู ให้รับทราบก่อน เนื่องจากเป็นช่วงกลางคืน ประกอบกับสถานการณ์ในพญาตองซู เองมีความไม่สงบอยู่ หากผลักดันออกไปอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่แรงงาน ทั้ง 38 คนได้ สุดท้ายจึงได้มีการเปลี่ยนแผนนำตัวแรงงานทั้ง 38 คน ไปพักที่ศูนย์แสดงสินค้าotop ของ อ.สังขลบุรี ในพื้นที่หมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส.และทหาร ควบคุมตัว เพื่อรอการประสานทหารเมียนมา มารับตัวในวันนี้

 

ในที่เกิดเหตุพบเรือหางยาวจอดไว้หนึ่งลำ จากการสอบถามแรงงานคนหนึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นเรือที่ตนนั่งมา เจ้าหน้าที่จึงยึดเรือไว้ตรวจสอบ เพื่อสืบหาเจ้าของเรือลำดังกล่าวมาขยายผลให้ผู้นำพาต่อไป เบื้องต้นทราบว่าเป็นเรือของกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องการนำพาต่างด้าวเข้าเมืองเส้นทางเรือในพื้นที่ชุมชนดงสัก บ้านวังกะ ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ ในพื้นที่อ.สังขละบุรี

 



 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.