เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจน์ นั่งถกไม่ยอมให้สื่อเข้า หวั่นชาวเมียนมาทะลักเข้าพาโควิด-19 มาแพร่


30 เม.ย. 2564, 16:43



ผู้ว่าฯ กาญจน์ นั่งถกไม่ยอมให้สื่อเข้า หวั่นชาวเมียนมาทะลักเข้าพาโควิด-19 มาแพร่




กาญจนบุรี ผู้ว่าฯนั่งหัวโต๊ะถกปัญหาโดยไม่ยอมให้สื่อเข้ารับฟังเด็ดขาด หวั่นชาวเมียนมา ที่ทะลักเข้าชายแดนนำพาโควิด-19 มาแพร่ระบาด แถมซ้ำเติมเศรษฐกิจ เบื้องต้นได้ 2 แนวทางคือหากจับได้ห่างจากชายแดนไม่เกิน 1 กม.ส่งกลับทันที  และหากจับได้ในพื้นที่ชั้นในพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

จากกรณีแรงงานชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรตามแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 26-29 ม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้มากถึง 191 คน โดยแรงงานได้ใช้เส้นทางตามธรรมชาติชายป่าและหุบเขาเดินเท้าเข้ามาเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดย 4 วันที่ผ่านมานั้น แรงงานถูกจับกุมได้ในท้องที่หมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค และเขาสันแดนท้องที่หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ทั้งหมดเดินทางมาจากจังหวัดทวาย ประเทศเมียนมา จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีความเป็นห่วงเป็นอย่างมากว่า แรงงานเหล่านี้อาจจะนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและประเทศไทย

 

ดังนั้นนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี จึงมีหนังสือศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุด ที่ กจ.0018.3/7528 เพื่อประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีการนัดประชุมกันที่หอประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี

 

วันนี้ 30 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอไทรโยค นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธารการประชุมตามข้อมูลข้างต้น โดยมีคณะกรรมการศูนย์สั่งการฯ ประกอบด้วย ร้อยตรี พงศธร ศิริสาคร รอง ผวจ.กาญจนบุรี นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13(ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.กาญจนบุรี

 

 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี พ.อ.บรรเจิด จันทร์ส่งเสริม รอง ผอ.รมน.กาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา  หน.สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้ง นายอำเภอที่แนวเขตติดชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาญจนบุรี อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี เข้าร่วมประชุม

 

ซึ่งการประชุมอนุญาตให้สื่อมวลชนเก็บภาพบรรยากาศได้ แต่ไม่ให้เข้าร่วมรับฟังด้วยเนื่องจากเป็นการประชุมหารือการภายใน และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในภายหลัง โดยการประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

 

ทั้งนี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นจำนวนมาก อย่างต่อเนื่องและครั้งหลายสิบราย หากเป็นเช่นนี้มันอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเรา รวมทั้งส่งผลกระทบต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดกาญจนบุรีด้วย

 

การประชุมได้มีการพูดคุยรวมทั้งมีการซักซ้อมการปฏิบัติ ไล่มาตั้งแต่ฝ่ายของทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายสาธารณสุข เพื่อให้เป็นแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกันได้อย่างชัดเจน ว่ามีกรณีไหนบ้างที่จะต้องมีการส่งแรงงานที่ถูกจับกุมตัวได้ แล้วสามารถผลักดันกลับประเทศได้ในทันที และในกรณีไหนบ้างที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

 

ซึ่งเราจะยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางที่ สมช.หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไว้ก็คือ หากมีการจับแรงงานต่างด้าวได้ในระยะทาง 1 กิโลเมตรจากชายแดน ทางทหารหรือผู้จับกุมหรือฝ่ายปกครอง ก็จะนำตัวส่งศูนย์ส่งกลับ ซึ่งอำเภอต่างๆจะได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเอาไว้เพื่อที่จะส่งผู้ถูกจับกุมกลับประเทศ แต่ในส่วนของแรงงานที่หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ส่วนในและสามารถจับกุมผู้นำพาได้ ในส่วนนี้เราจะดำเนินคดีตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองต่อไป การประชุมในวันนี้ขอเรียนว่าเป็นการพูดคุยถึงแนวทางปฏิบัติและแนวทางการประสานงาน สำหรับผู้หลบหนีเข้าเมืองที่จับกุมได้เราก็จะดำเนินการตามกรณีข้างต้นต่อไป

 

สำหรับสถานที่กักกันในส่วนของผู้ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายนั้น จะเป็นการกักกันในกรณีของการดำเนินการตามกฎหมายของตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเมื่อมีการจับกุมตัวผู้หลบหนีเข้ามาได้แล้ว ทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้มีนโยบายสร้างสถานที่กักกันเพื่อดำเนินการสอบสวนคัดกรองด้วยการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่หลบหนีเข้ามาว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยหรือไม่ก่อนที่จะดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย สำหรับศูนย์กักกันจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ฝากเตือนไปถึงกลุ่มผู้กระทำผิดที่ลักลอบนำพาแรงงานเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จึงก็ขอเรียนว่าปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในบ้านเมืองเรานั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ดังนั้นทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกร่วมกันในการที่จะช่วยกันดูแล การกระทำใดๆที่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ในบ้านเมืองในขณะนี้ถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ คงจะต้องค้นหาเพื่อดำเนินตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

ด้าน พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า กรณีที่มีการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก ก็จะคุมขังเอาไว้ที่ สภ.นั้นได้ได้ไม่เกิน 30 คน เพราะว่าห้องคุมขังตาม สภ.ต่างๆมีแค่ 3 ห้อง หากจับกุมแรงงานได้มากกว่า 30 คน ก็จะกระจายนำไปคุมขังเอาไว้ ตาม สภ.ที่อยู่ใกล้เคียง โดยเริ่มกระจายไปตาม สภ.ต่างๆมาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางตำรวจก็ได้มีการประสารกับทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และสาธารณสุขจังหวัด หากผ่านกระบวนการตรวจหาเชื้อได้เร็ว ก็จะสามารถผลักดันแรงงานเหล่านั้นกลับประเทศต้นทางได้เร็วขึ้น

 

ด้าน พ.ต.อ.จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.กาญจนบุรี กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย.64 สำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง (ตม.)จังหวัดกาญจนบุรี ได้นำแรงงานที่ลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายที่จับกุมตัวไปไปฝากกักเอาไว้ ตาม สภ.ต่างๆ จำนวน 3 สภ.รวม 35 คน เป็นชาย 24 คน หญิง 11 คน ประกอบด้วย สภ.ท่าม่วง จำนวน 15 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 4 คน สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จำนวน 10 คน เป็นหญิงทั้งหมด และ สภ.สำรอง อ.ท่าม่วง จำนวน 10 คน เป็นชายทั้งหมด./

 



 


 


คำที่เกี่ยวข้อง : #ผู้ว่าฯ กาญจน์   #โควิด-19  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.