เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รพ.พหลพลพยุหเสนา เร่งฉีดวัคซีนให้กับ จนท.


26 เม.ย. 2564, 13:47



รพ.พหลพลพยุหเสนา เร่งฉีดวัคซีนให้กับ จนท.




วันนี้ ( 26 เม.ย. 2564 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณอาคารอเนกประสงค์ พยงค์ – สง่า รำลึก หลังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนากาญจนบุรี นายแพทย์สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลสามารถฉีดให้วันละไม่เกิน 1 พันราย โดยแบ่งเป็นช่วงเช้า 500 ราย ช่วงบ่ายอีก 500 ราย ตนก็ได้ลงมาช่วยอำนวยความสะดวกดูแลเจ้าหน้าที่ในการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 แก่บุคลากรด่านหน้าซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายในงวดที่สอง โดยงวดแรกฉีดไปเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2564 ที่ผ่านไปแล้วบางส่วน ต้องรอวัคซีนที่ทางกระทรวงส่งลงมาอีกคาดว่าไม่นาน สามารถจะให้บริการฉีดให้แก่บุคลากรด่านหน้า รวมถึงประชาชน ที่ไปลงชื่อกับทางโรงพยาบาลในพื้นที่ จนครบทุกราย ซึ่งในงวดนี้มีเจ้าหน้าที่ด่านหน้า จำนวนเกือบ 4 พันราย ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ตำรวจ ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง

สำหรับสำนักงานสาธารณสุขกาญจน์ และโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้เร่งฉีดวัคซีนแก่บุคลากรด่านหน้า ทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และส่วนราชการอื่นๆ นั้น ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้รวบรวมบัญชีรายชื่อจากหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติงานด่านหน้า ได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ อสม. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเรือนจำ ฯลฯ โดยผ่านต้นสังกัดและอำเภอต่างๆ โดยดำเนินการฉีดตั้งแต่ระหว่างวันที่ 22 – 23 และวันที่ 26 เมษายน 2564 มีโควตารวม 3,940 คน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของบุคลากรที่มีความเสี่ยง ตามบัญชีรายชื่อของแต่ละหน่วยงานที่ส่งมา โดยวันแรกเป็นการฉีดให้แก่บุคลากรสาธารณสุข วันที่สองฉีดให้แก่บุคลากรหน่วยงานอื่นๆ และเก็บตกในวันที่สาม ผลการฉีดวัคซีนพบอาการข้างเคียงน้อยกว่า ร้อยละ 20 และไม่มีอาการแพ้รุนแรง

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทราบว่าวัคซีนนำร่องอีกชุดหนึ่งกำลังเตรียมการส่งมาเพิ่มอีก ประมาณ 4,000 ชุด ซึ่งจะได้มีการตรวจสอบบัญชีรายชื่อบุคลากรที่มีความเสี่ยงที่เหลือ เพื่อฉีดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อสงวนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานให้ครบถ้วนเพื่อความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างเต็มกำลังต่อไป

โอกาสนี้ผู้ที่ไปรับการฉีดวัคซีน ได้กล่าวว่าการปฏิบัติตนก่อนและหลังการฉีดวัคซีน คือต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และผู้ที่รับวัคซีนไปแล้วบอกว่าหลังจากรับวัคซีนไปแล้วจะรู้สึกอ่อนเพลียบ้างเป็นเรื่องปกติ อาการจะเป็นอยู่ประมาณ 3 วัน ก็จะหายปกติ หากเราได้พักผ่อนตามที่ทางบุคลากรทางการแพทย์ได้แจ้งให้ทราบ การไปฉีดวัคซีนจะต้องไม่เกร็งปล่อยไปตามธรรมชาติ หากเราไปเกร็งผลตามมาอาจจะทำให้เราอ่อนเพลียรุนแรงได้ เสียงจากผู้ที่ฉีดวัคซีนงวดแรกแล้วมาฉีดงวดสอง เล่าให้ทราบ

นายแพทย์รักษ์พงษ์  เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่าได้ฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้าไปแล้วบางส่วน และวัคซีนอีก 7 พันโดส ทางกระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งส่งมาให้ และในงวดนี้ทางโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้ฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าไปแล้วประมาณ 800 ราย และหลังการฉีดวัคซีนประมาณ 3 วัน ได้ติดต่อสอบถามทั้งหมดไม่พบว่ามีการแพ้รุนแรง อาจมีบ้างเกิดจากสาเหตุการพักผ่อนไม่เพียงพอ และไปฉีดวัคซีน รวมถึงในช่วงเวลาฉีดได้เกิดอาการเกร็งจึงทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียไปบ้างสรุปทุกรายได้หายเป็นปกติหมดแล้ว

นายแพทย์รักษ์พงษ์  เวียงเจริญ ได้กล่าวว่าก่อนฉีดวัคซีนขอให้ประชาชนได้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปฉีดวัคซีน และสำคัญที่สุดในช่วงนี้ขอฝากประชาชนทุกคนสวมอมสก์ตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ปฏิบัติตัวตามกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ อย่างเคร่งครัดด้วยเพื่อป้องกันโควิด-19 หากมีอาการไข้ให้ปรึกษาหน่วยพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่งทันที โดยเฉพาะช่วงนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานหนักกว่าเดิม ต้องขอฝากไปยังประชาชนอย่าขับรถเร็ว อย่าดื่มสุรา เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้ว ทางบุคลากรที่ต้องทำงานหนักอยู่แล้ว ต้องมาดูแลผู้ประสพเหตุเช่นนี้จะทำให้บุคลากรต้องทำงานหนักกว่าเดิม

สำหรับผู้ป่วยในจังหวัดกาญจนบุรี วันนี้มีอยู่ประมาณ 80 ราย แล้วที่หายกลับบ้านได้แล้วเกือบ 40 ราย บุคลากรของโรงพยาบาลทุกแห่งดูแลอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนทุกคนปลอดภัยจากโควิด 19 ฝากขอให้ประชาชนเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ด้วยในระยะนี้ และย้ำฝากประชาชนที่จะมาฉีดวัคซีนให้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองให้กับทางแพทย์ได้ทราบด้วย ว่าเคยป่วยจากโรคใดบ้าง ขออย่าได้ปิดบังอาจจะทำให้หลังการฉีดวัคซีนไปแล้วเกิดผลกระทบกลับมา ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องมาดูแลกับบุคคลนั้นๆ ด้วยหรือหากประชาชนที่ต้องรับประทานยารักษาโรคต่างๆ จะต้องทานยาตามแพทย์สั่งอย่าให้ขาด หรือหากยาหมดให้แจ้งมาทางโรงพยาบาลจะอำนวยความสะดวกส่งยาไปให้กับทุกท่านทางไปรษณีย์ถึงบ้านท่านโดยท่านไม่ต้องเดินทางเข้าไปรับยาด้วยตนเอง

 

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.