เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



หนุ่มโพสต์ซากกระทิงลงเฟซบุ๊ก เจอชุดพญาเสือบุกบ้าน พบซากกวางป่า อาวุธปืน ไม้เถื่อนอื้อ!


25 เม.ย. 2564, 08:31



หนุ่มโพสต์ซากกระทิงลงเฟซบุ๊ก เจอชุดพญาเสือบุกบ้าน พบซากกวางป่า อาวุธปืน ไม้เถื่อนอื้อ!




วันนี้ 24 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายพนัชกร  โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.หนองขาว นายยุทธพงค์  ดำศรีสุข เจ้าหน้าที่หน่วยฯ พญาเสือ นายเศวตกุญชร  บุญประดับ เจ้าหน้าที่สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าฯ นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค  หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) นายชาติชาย ศรีแผ้ว  หน.สปป.1 (ภาคกลาง) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองขาว และจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปทส.

 

 

พร้อมกำลังได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านแห่งหนึ่งใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เนื่องจากเจ้าของบ้านคือนายชาตรี อายุ 41 ปี มีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับการล่าสัตว์ป่า โดย นายชาตรี ได้โพสต์ภาพการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาได้โพสต์ภาพซากสัตว์ป่าคุ้มครอง(หัวกระทิง) ขนาดใหญ่ มีสภาพสดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบชาตรี อยู่ภายในบ้าน และบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวสร้างด้วยปูนชั้นเดียว จากลักษณะตรงกับภาพที่มีการโพสต์การครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองลงในเฟซบุ๊ก ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น

 

 

 

 

 

 



โดยเจ้าหน้าที่ได้สอบถาม นายชาตรีฯ เกี่ยวกับการโพสต์ภาพซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (หัวกระทิง) ที่มีขนาดใหญ่ และสภาพสดใหม่ ว่าได้ครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (หัวกระทิง) จริงหรือไม่  ซึ่งนายชาตรีฯ ให้การว่า ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (หัวกระทิง) ดังกล่าวเป็นภาพที่ถ่ายไว้เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (หัวกระทิง) ดังกล่าว เป็นของเลียนแบบธรรมชาติที่ทำมาจากเรซิ่น  เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในบริเวณบ้านหลังดังกล่าวโดยรอบ ไม่พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (หัวกระทิง)ดังกล่าว แต่อย่างใด

 

 

แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในบ้าน บริเวณห้องโถง พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (กวางป่า) ประกอบแผ่นไม้ ติดอยู่บริเวณผนัง ซึ่งนายชาตรีฯ แจ้งว่าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (กวางป่า) เป็นของบิดา ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่มีเอกสารการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่อย่างใด

 

 

จากการตรวจค้นโดยรอบบริเวณบ้าน พบไม้หวงห้ามแปรรูป ประเภทไม้ชิงชัน และไม้มะค่าโมง นับรวมกันได้  จำนวน 75 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตรรวม 0.955 ลบ.ม. คิดเป็นมูลค่าความเสียหายภาครัฐเป็นเงิน จำนวน 152,800 บาท และเลื่อยโซ่ยนต์สีส้ม - ขาว ยี่ห้อ Black Bull รุ่น B-CS152 พร้อมโซ่และแผ่นบังคับโซ่ ความยาว 22 นิ้ว

 

 

โดยนายชาตรี แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าไม้ที่พบตนได้ซื้อมาจากชาวกระเหรี่ยง ในพื้นที่บ้านแก่นมะกรูด ต.บ้านไร่ ออ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี โดยไม่มีหลักฐานการได้มาของไม้  สำหรับเลื่อยโซ่ยนต์ ไม่มีใบอนุญาตการครอบครองแต่อย่างใด

 

 

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ ได้ตรวจค้นบริเวณห้องครัว ภายในตู้เย็น ช่องแช่แข็ง พบชิ้นเนื้อ น้ำหนัก 0.28 กรัม โดยนายชาตรีฯ แจ้งว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นชิ้นเนื้อเก้ง หรือ เนื้อกวาง โดยมีชาวบ้านในท้องที่ตำบลบ้านไร่ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี มอบให้ตนมาอีกต่อหนึ่ง อีกทั้งยังพบหนวดเสือไม่ทราบชนิด จำนวน 5 เส้น ซึ่งนายชาตรีฯ แจ้งว่า ซื้อมาจากตลาดคลองถม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ดังนั้นคณะพนักงานเจ้าหน้าที่จะนำชิ้นเนื้อและขนเสือจำนวนดังกล่าวส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อไป

 

 

 

 

 

 


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในห้องนอนของนายชาตรี ผลปรากฏพบอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก โดยนายชาตรีฯ ได้นำใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) มาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำนวน 2 ฉบับเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าวปรากฏว่า ตรงกับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.) จำนวน 2 กระบอก

 

 

แต่อาวุธปืนยาวชนิดเดี่ยวลูกกรด ขนาด .22  ยี่ห้อ CZ พร้อมติดกล้องเล็ง จำนวน 1 กระบอก โดยปืนกระบอกดังกล่าวมีลำกล้องสำรอง จำนวน 1 ลำกล้อง ซึ่งมีเลขหมายประจำปืนตรงกัน แต่ไม่พบใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) แต่อย่างใด

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นพร้อมกันว่า นายชาตรี มีพฤติกรรมในการกระทำความผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562    ฐาน “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์” ตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2545 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และ ฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2470 โดยนายชาตรี ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.