เมื่อเวลาประมาณ18.00น.ของวันที่11เมษายน2564ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บริษัทคาลฟ์เบบี้อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัดเลขที่122หมู่ที่4ต.แครายอ.กระทุ่มแบนจ.สมุทรสาครเป็นโรงงานขนาดใหญ่ผลิตแผ่นยางทำรองเท้าตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ1ไร่โดยเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงทั้งนี้รถน้ำดับเพลิงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จากของเทศบาลตำบลแครายฯและพื้นที่ใกล้เคียงในเขตจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครและนครปฐมรวมกว่า20คันได้ระดมกำลังเข้ามาช่วยระงับเหตุแต่เนื่องจากสภาพพื้นที่ๆเป็นซอยคับแคบประกอบกับแรงลมที่พัดกระหน่ำมาเป็นระยะๆเนื่องจากว่าในพื้นที่มีฝนตกลงมาก่อนหน้านี้และภายในตัวอาคารโรงงานขนาด3ชั้นยังมีเชื้อเพลิงซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตแผ่นยางรองเท้าจำนวนมากและถังน้ำมันจึงทำให้การดับไฟเป็นไปได้อย่างยากลำบากอีกทั้งยังต้องทำการควบคุมเพลิงอย่างรอบด้านเพราะนอกจากจะมีบริษัทฯอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ติดกับโรงงานที่เกิดไฟไหม้แล้วยังมีโรงงานบรรจุแก๊สใส่ถังและห้องพักของคนงานตั้งอยู่ใกล้ๆกันอีกด้วยทั้งนี้เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงนานกว่า3ชั่วโมง(21.00น.)ก็ยังไม่สงบลงแต่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้วทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเดินหน้าควบคุมเพลิงต่อไปโดยได้มีการประสานรถดับเพลิงชนิดโฟมเข้ามาช่วย

อีกทางหนึ่งซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นก็มีนายบรรพตจันทรวงษ์นายอำเภอกระทุ่มแบนพร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาครและผู้กำกับการสภ.กระทุ่มแบนเข้ามาควบคุมสั่งการตามภาระกิจงานในความรับผิดชอบส่วนผู้บาดเจ็บนั้นมีรายงานว่าเป็นเจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงได้รับบาดเจ็บจากถูกสังกะสีบาด2รายขณะที่ความรุนแรงของเพลิงได้ทำให้ตัวอาคารเริ่มทรุดลงมาแล้ว

เบื้องต้นจากการสอบถามรปภ.ของโรงงานทราบว่าโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตแผ่นยางรองเท้ามีคนจีนเป็นเจ้าของขณะเกิดเหตุโรงงานแห่งนี้ได้หยุดทำงานเนื่องในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่11–16เมษายน2564มีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.)แม่บ้านและคนงานที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงงานเท่านั้นซึ่งก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้นั้นรปภ.ได้เดินไปตรวจดูความเรียบร้อยและกำลังปิดสวิทส์ไฟภายในโรงงานเพราะโรงงานหยุดยาวหลายวันแต่ช่วงที่กำลังเดินปิดสวิทส์ไฟนั้นเองก็ได้ยินเสียงคล้ายกับมีวัตถุบางอย่างระเบิดขึ้นแล้วก็มีเพลิงลุกไหม้มาจากทางด้านหลังของโรงงานซึ่งรปภ.ก็ได้รีบใช้ถังดับเพลิงเข้าไปฉีดพ่นแต่ไม่สามารถระงับได้จึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลแครายแต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงทั่วทั้งตัวอาคาร

สำหรับสาเหตุนั้นยังคงต้องรอให้เพลิงสงบก่อนแล้วให้เจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญด้านโรงงานส่วนมูลค่าความเสียหายยังอยู่ระหว่างการประเมิน