เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



แม่หัวใจสลาย! ลูกชายวัย 15 ปี "เข้าค่ายลูกเสือ" จมน้ำดับ วอนขอความเป็นธรรม


17 มี.ค. 2564, 15:55



แม่หัวใจสลาย! ลูกชายวัย 15 ปี "เข้าค่ายลูกเสือ" จมน้ำดับ วอนขอความเป็นธรรม




(17 มี.ค. ) จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์ เด็กชายวัย 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตที่บริเวณหนองน้ำหลังวัดที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากที่ร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือเมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยบรรยากาศงานศพของ ด.ช.บี (นามสมมติ) ญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ จ.กาฬสินธุ์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติ ซึ่งทุกคนต่างติดใจการเสียชีวิตของลูกชายในครั้งนี้ โดยระบุว่าเหตุสลดที่เกิดขึ้น เกิดจากความประมาทของครูผู้ควบคุมกิจกรรม

นางนา (นามสมมติ)  อายุ 48 ปี แม่ของเด็กชาย ด.ช.บี กล่าวว่า วันเกิดเหตุทราบว่าทางโรงเรียนจะมีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะมีการให้เด็กนักเรียนลงไปมุดน้ำ กระทั่งช่วงเย็นไม่เห็นลูกชายกลับบ้าน ซึ่งปกติจะกลับบ้านตรงเวลา ด้วยความเป็นห่วงจึงไปตามหาลูกชายและสอบถามผู้อำนวยการและครูหลายครั้ง ซึ่งทุกคนก็บอกว่าไม่เห็น อีกทั้งยังไม่ค่อยสนใจ ก่อนที่ชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านจะประกาศออกช่วยกันตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงเข้าแจ้งความ และสอบถามเพื่อนของลูกชาย หลายคนเห็นครั้งสุดท้ายตอนที่ลงไปในสระน้ำร่วมกิจกรรมค่ายลูกเสือ เบื้องต้นคาดว่าลูกชายน่าจะจมน้ำ จึงประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ กระทั่งพบว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิตจริงๆ

นางนา กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น การเข้าค่ายลูกเสือไม่ควรที่จะต้องไปลงน้ำ มุดน้ำ โดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเช่นลูกชายของตน แต่ถูกบังคับให้ลงน้ำและมุดน้ำทั้งๆ ที่ว่ายไม่เป็น อีกทั้งเท่าที่ทราบการเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์การให้ความช่วยเหลือเด็กก็ไม่มี ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ต้องมาเสียชีวิตอย่างกะทันหันอย่างนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกชายของตนด้วย

 



นายศักดิ์ ( นามสมมติ ) ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้สถานที่สาธารณะหมู่บ้าน ซึ่งมีสระน้ำสาธารณะห่างอยู่ด้านข้างทิศเหนือ มีถนนคั่นกลาง จากโรงเรียนประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือทุกปี โดยในการจัดกิจกรรมได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละ 13-15 คน เข้าร่วมกิจกรรมฐานต่างๆรวม 6 ฐาน ประกอบด้วย ฐานลำเลียงน้ำ ฐานบัวตูมบัวบาน ฐานท่องกฎและคำปฏิญาณ ฐานเงื่อน ฐานปิดตาไต่เขา และฐานหลบระเบิด แต่ละฐานจะมีครูผู้ควบคุมดูแล 2 คน ซึ่งฐานที่เกิดเหตุเด็กนักเรียนจมน้ำนั้นเป็นฐานที่ 6 ฐานสุดท้าย ได้ให้นักเรียนลงไปในน้ำ เพื่อล้างเนื้อล้างตัว ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุทางคณะครูก็ได้มีการเฝ้าระวังและเช็คจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกฐาน

นายศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณี ด.ช.บี ที่จมน้ำเสียชีวิตนั้น คาดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น ด.ช.บี เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า แต่กลับมาเข้าร่วมในช่วงบ่าย ซึ่งทางคณะครูผู้ควบคุมได้เช็คจำนวนนักเรียนหลังจากทุกคนขึ้นมาจากหนองน้ำก็พบว่าครบจึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบทีหลังว่าหายตัวไปและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนและคณะครูก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก ซึ่งพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ และยืนยันว่าฐานค่ายลูกเสือที่ลงไปในน้ำไม่ได้บังคับให้ลงไปทุกคน

สำหรับเรื่องของคดีเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามเด็กนักเรียนเบื้องต้นพบว่าการจัดกิกจรรมค่ายลูกเสือ โดยเฉพาะฐานหลบระเบิดที่เป็นจุดเกิดเหตุเป็นสระน้ำขนาดใหญ่กว้างเท่ากับสนามฟุตบอล หลายจุดมีความลึกนั้นไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ หรือห่วงยาง รวมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำอย่างละเอียด และเด็กนักเรียน ซึ่งต้องสอบร่วมกับทีมสหวิชาชีพ เพื่อหาสาเหตุว่าการจมน้ำเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดจากความประมาทหรืออุบัติเหตุ 

อย่างไรก็ตามสำหรับครูฝึกชายและหญิง 2 คน ที่เป็นครูฝึกและผู้ควบคุมฐานที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากครูทุกคนยังอยู่ในอาการเสียใจและอาการช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่พร้อมให้ข้อมูล

 

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.