วันที่ 4 มีนาคม 2564  น.ส.ไฉไล อามาตย์ อายุ 47 ปี เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งอยู่หน้าบริษัทขายรถแห่งหนึ่ง ติดกับ ถ.พหลโยธิน อ.เมือง จ.สระบุรี  ขณะกำลังทำอาหารให้ลูกค้าอยู่ ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทเครื่องคล้ายเสียงรถของตน จึงแปลกใจได้รีบเดินมาดูที่หน้าร้าน ก็เห็นชายรูปร่างเล็ก มองไม่เห็นหน้า และไม่รู้อายุประมาณเท่าไหร่ เพราะเห็นแต่ด้านหลัง ใช้ผ้าขาวม้าโพกหัว คล้ายกับคนทำงานก่อสร้าง ไม่ได้สังเกตว่าใส่เสื้อผ้าอะไร เพราะความตกใจ  เห็นคนร้ายมาคนเดียวได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สกู๊ปบี้สีแดง หมายเลขทะเบียน สบต สระบุรี 30  ที่จอดติดอยู่กับข้างร้าน ซึ่งตนชอบเสียบกุญแจทิ้งไว้เป็นประจำ ขับหนีไปต่อหน้าต่อตา ตนจึงได้รีบวิ่งตามและร้องตะโกนให้คนช่วย ว่ามี คนขโมยรถ แต่ก็ไม่ทัน ย้อนกลับมาดูที่รถจอด ก็เห็นรถจักรยานสีเหลือง   มีถุงพลาสติกและผ้าเช็ดหน้าสีเขียวห้อยไว้อยู่หน้าแฮนรถ น่าจะเป็นของคนร้ายมาจอดไว้ และได้ขโมยรถของตนเองเป็นแน่แท้ เพราะว่ารถจักรยานไม่เคยมีใครเอามาจอด   ตนจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดที่อู่ซ่อมรถที่อยู่ติดกับร้านตนเอง  ก็เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานมาจอดข้างร้าน คู่กับรถมอเตอร์ไซค์ของตน และได้สบโอกาสขโมยรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองขับหลบหนีไปอย่างไว ตนจึงได้รีบแจ้งไปที่ ศูนย์ 191 เมืองสระบุรี ไม่ถึง 10 นาที พ.ต.ต.ภัทรพล ปิ่นทอง รองสารวัตสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รุดมาที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวน  มาดูในที่เกิดเหตุดังกล่าว และตนเองได้มอบคลิปกล้องวงจรปิดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ เพื่อจะได้นำรถมอเตอร์ไซค์มาคืนตนเอง เนื่องจากตอนนี้ไม่มีรถใช้ซื้อของเลย  ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถจักรยานสีเหลืองของคนร้ายที่จอดทิ้งไว้ ไปไว้ที่ สภ.เมืองสระบุรี และจะไล่ดูกล้องวงจรปิดตามถนน เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป