จากนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ผบ.ฉก.ลาดหญ้า) กกล.สุรสีห์ ให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังป้องการและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด โดยเฉพาะเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าออกตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

วันนี้ 15 ก.พ. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ7 พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผบก.ภ.จว.กาญฯ พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ผบ.ฉก.ลาดหญ้า) กกล.สุรสีห์  พันเอกเฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.ต.สุพงศ์สิทธิ์  แจ้งพันธ ผบ.ร้อย ตชด.135 นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า ปลัดอาวุโสอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกันแถลงข่าวเครือข่ายการจับกุมยาเสพติดนายสุทิน หลวงภิเภกกับพวก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564

จากการสืบสวนติดตามขบวนการลักลอบขนยาเสพติดแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในและจำหน่ายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีรถกู้ภัยกรมทางหลวงสีขาว ด้านบนติดไซเลน มีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติดลงไปจำหน่ายในพื้นที่เมืองกาญจนบุรี

โดยจับกุมได้บริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ ต่อมาเวลา 12.30 น.ของวันที่ 14 ก.พ . 64 ที่ผ่านมา ได้ตรวจพบรถยนต์ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งมา ขับมาจากทาง อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า จ.กาญจนบุรี จึงได้เรียกหยุดตรวจรถ พบนายสุทิน หลวงภิเภก อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 73/6 ม.4 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  นายมนตรี หลวงภิเภก อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 73/6 ม.4 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาวหมายเลขทะเบียน 2 ฒอ. 359 กรุงเทพมหานคร และทำการตรวจค้นปรากฏว่าพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ใต้กระบะแม๊กไลนเนอร์ จำนวน 40 มัด รวมประมาณ 80,000 เม็ด จึงได้ดำเนินการจับกุม 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง  ครั้งแรกได้เงินค่าแจ้ง 40,000 บาท ส่วนครั้งนี้ได้เงินค่าแจ้ง 35,000 บาท ทราบว่าจะนำไปส่งให้กับเจ้าของในพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  และหนึ่งในผู้ต้องหาเคยเป็นกู้ภัยทางหลวงและลาออกจากกู้ภัยทางหลวงเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา  จึงได้ประสานกับตำรวจทางหลวงให้เพิ่มความเข้มและกำชับกับผู้ปฎิบัติส่วนหนึ่งแล้ว โดยผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1( ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน ) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ ได้เกินกว่ายี่สิบกรัมขึ้นไปไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย