เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจน์ เบรก ปชช. ท้าพิสูจน์ "น้ำพุโซดา" หวั่นอันตราย! วอนรอผลตรวจ


12 ก.พ. 2564, 13:50



ผู้ว่าฯ กาญจน์ เบรก ปชช. ท้าพิสูจน์ "น้ำพุโซดา" หวั่นอันตราย! วอนรอผลตรวจ




ความคืบหน้า ภายหลังจาก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี และระหว่างที่ทำการเจาะบ่อบริเวณบ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ริมถนนถนนทางหลวงชนบทหมาย 3363 สายบ่อพลอย – ห้วยกระเจา ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 23 – 24 ได้พบแหล่งน้ำพุธรรมชาติมีลักษณะพิเศษ ซึ่งไม่เคยพบที่ใดมาก่อนในประเทศไทย คือ มีรสซ่า คล้ายน้ำโซดา ซึ่งหลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป สร้างความสนใจให้ประชาชนกับประชาชนเป็นอย่างมาก นั้น

วันนี้ ( 12 ก.พ. 2564 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อข่าวที่พบแหล่งน้ำแร่โซดาเผยแพร่ออกไปทางสื่อต่างๆ ก็ได้มีประชาชนทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดเดินทางไปยังจุดพบน้ำพุโซดากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ชมได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำน้ำกลับไปรับประทาน เพราะยังต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่แน่ชัดเสียก่อนว่ามีสารอันตรายหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างจากแหล่งน้ำแร่โซดาที่พบนี้ ไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจวิเคราะห์ว่ามีสารอะไรปนเปื้อนอยู่ในน้ำบ้าง และมีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่ รวมถึงสามารถนำไปใช้ในการอุปโภค บริโภค และใช้ทางการเกษตรได้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์จะทราบผล สำหรับพื้นที่ที่พบพุน้ำโซดา เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา และ หมู่ที่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย ทางนายอำเภอบ่อพลอย จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าว 

ผลจากการขุดเจาะจำนวน 3 บ่อ ห่างกันประมาณ 200 เมตร แต่ละบ่อขุดที่ความลึกประมาณ 250 เมตร พบว่า บ่อที่ 2 และบ่อที่ 3 มีน้ำพุ่งขึ้นสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร ลักษณะน้ำเป็นน้ำเย็น รสชาติเหมือนโซดา (ไม่ซ่า) ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีสารไบคาบอร์เนต (โซดา) ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ

แต่อย่างไรก็ตามกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้นำน้ำดังกล่าวไปวิเคราะห์ตรวจหาสารต่างๆ หากพบว่ามีอันตรายจะสั่งการให้ปิดบ่อในทันที แต่หากไม่อันตรายก็จะนำไปทำระบบน้ำประปาให้ประชาชนได้ใช้ต่อไป พร้อมกันนี้ก็ได้ประสาน สภ.บ่อพลอย จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลการจราจร เนื่องจากมีประชาชนเข้ามาเที่ยวชมจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ให้ อบต.บ่อพลอย จัดทำป้ายเตือนห้ามนำน้ำไปรับประทานเพราะอาจเกิดอันตราย มาติดตั้งไว้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย

โดย นายสิริพงศ์ สืบเนียม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา เปิดเผยว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งว่า ยังไม่อนุญาตให้มาตักน้ำจากแหล่งน้ำพุนี้ไปดื่มกิน เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ว่ามีสารหนักสารเบาอะไรปนเปื้อนอยู่ในน้ำบ้าง

ขณะนี้ประชาชนกำลังตื่นตระหนกกับแหล่งน้ำที่พบ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนประหลาดใจ จึงพากันเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ชมได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้นำน้ำกลับไปดื่มกิน หรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ แต่หากจะนำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสามารถทำได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทราบผลทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะได้แถลงข่าวเพื่อให้ประชาชนทราบต่อไป ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะทราบผล ดังนั้นขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้วย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเวรยามเฝ้าแหล่งน้ำพุตลอด 24 ชม. เพื่อดูแลพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

มีรายงานว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สำรวจพบน้ำบาดาลที่หมู่ 12 บ้านพยอมงาม จำนวน 4 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 52 ลบ.ม./ชม. และ ที่หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ อีกจำนวน 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.ม./ชม.คิดปริมาตรรวม 1,700,000 กว่า ลบ.ม./ปี ประชากรจะได้รับประโยชน์ จำนวน 15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการก่อสร้างถังประปาบาดาลขนาดใหญ่ ถังเก็บน้ำ ท่อจุดจ่ายน้ำถาวร แบบท่องวงช้าง และต่อเมนเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบประปาของ อปท. และใช้ในการเกษตรต่อไปคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกิน 4 เดือน

ทั้งนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพตัวอย่างน้ำที่เก็บมาจากแหล่งน้ำดังกล่าว ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า "Jirakiat Bhumisawasdi" ระบุว่า “ตามที่ได้มีข่าวและทุกท่านได้รับทราบแล้วว่ากรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ขุดพบแหล่งน้ำใต้ดินจำนวนมหาศาลที่เขตของอำเภอบ่อพลอยติดกับห้วยกระเจา ซึ่งเป็นความหวังสำหรับพี่น้องประชาชนของอำเภอห้วยกระเจาและอำเภอใกล้เคียงว่าต่อไปความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวจะลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่อย่างไรก็ดีเราต้องรอผลการวิเคราะห์ที่กรมทรัพยากรน้ำกำลังดำเนินการ หากสามารถใช้อุปโภคบริโภคหรือการเกษตรได้ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”

“แต่อย่างไรก็ตาม ตามที่มีการเสนอข่าวว่ารสชาติคล้ายโซดาและประชาชนบางท่านได้ลองเอามาผสมสุราดื่มหรือดื่มลองชิมดูนั้น ขอให้งดการกระทำดังกล่าว เพราะเมื่อวานนี้ผมได้ให้พี่อ้วนโชเฟอร์ของผมไปสังเกตการณ์และนำตัวอย่างน้ำมาดู ซึ่งเมื่อเก็บไว้ข้ามคืนน้ำเปลี่ยนสีเป็นขุ่นๆ ออกน้ำตาลเป็นอย่างมากและมีกลิ่นตุๆ จึงคิดว่าไม่น่าจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้ที่นำไปดื่มหรือลองของจึงขอให้งดและรอผลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก่อนว่าจะต้องมีกระบวนการใดๆก่อนที่จะนำน้ำมาใช้ประโยชน์ได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพบ พุน้ำโซดา ได้สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมทั้งผู้ที่ทราบข่าว จึงต่างพากันแห่เดินทางมาเที่ยวชมและพิสูจน์รสชาติของน้ำจากแหล่งดังกล่าว ว่าเหมือนโซดาจริงหรือไม่

และล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. ของวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ขุดเจาะบ่อที่ 2 ในพื้นที่ห่างกันประมาณ 30 เมตร เสร็จเป็นที่เรียบร้อย และก็เกิดมีน้ำพุ่งขึ้นมาอีกเช่นกับที่เจาะบ่อแรก สร้างความแปลกใจแก่เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เจาะบ่อในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เตรียมเสนอบ่อบาดาล ต.ห้วยกระเจา ถึง สำนักงาน กปร. เพื่อให้พิจารณารับเป็นโครงการพระราชดำริ ต่อไป

 

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.