เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คุณปู่ใจแทบสลาย ร่อนจม.ขอความเป็นธรรมให้หลานสาววัย 5 ขวบ ถูกรุมโทรมในรร. ปิดกันเงียบทั้งจังหวัด


5 มิ.ย. 2562, 14:46



คุณปู่ใจแทบสลาย ร่อนจม.ขอความเป็นธรรมให้หลานสาววัย 5 ขวบ ถูกรุมโทรมในรร. ปิดกันเงียบทั้งจังหวัด




ที่เพจเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์  เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 มีรายงานเรื่องราวร้องเรียนจากคุณปู่ท่านหนึ่ง ร้องขอความเป็นธรรมให้กับหลานสาว อายุ 5 ขวบ ระบุถูกเพื่อนนักเรียนชายรุมโทรม  ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี แต่ครู และผู้อำนวยการโรงเรียนกลับปิดเรื่องเงียบมาข้ามปี ไม่แสดงความรับผิดชอบ หรือเยียวยาใดๆให้กับครอบครัวผู้เสียหาย หนำซ้ำยังแนะนำให้เด็กหญิงผู้เสียหายย้ายออกจากโรงเรียน 

 

โดยได้เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความว่า สวัสดีครับทนายรณรงค์ ผมเป็นปู่ของผู้เสียหาย มีเรื่องอยากร้องเรียน เนื่องจากผมมีเรื่องกังวลใจมากเกี่ยวกับหลานสาวของผม คือเรึ่องเกิดเมึ่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561  วันนั้นหลานสาวผมซึ่งเป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ได้กลับจากไปเรียน โดยรถรับส่งที่ทางโรงเรียนจัดหาให้ มาถึงบ้านเวลาประมาณ 16.30 -17.00 น และได้เห็นหลานสาวเดินไปเข้าห้องน้ำ ชึ่งอยู่นอกตัวบ้าน และไม่ได้สังเกตว่าออกไปไหนต่อ  ต่อมาไม่นานเมียผมได้ไปใช้ห้องน้ำต่อ ได้เห็นมีเลือดที่ห้องน้ำนั้น จึงบ่นว่าใครมาทำสกปรกไว้ ผมจึงบอกไปว่าเห็นหลานเข้า ภรรยาผมหรือย่าของหลานจึงไปตามดูที่ห้องนอนจึงเห็นเด็กนอนซม มีเลือดติดที่ขา และไหลออกที่อวัยวะเพศ



ภรรยาของผมจึงได้เข้าไปดู และทำความสะอาด ปลอบโยนเด็ก และถามจึงได้ความว่าเขาถูกเพื่อนชายทำ ต่อมาญาติๆเห็นมีเลือดไหลออกมาตอนน้องฉี่ จึงได้พาน้องไปหาหมอ พอไปถึงหมอได้สอบถามผู้ปกครองเบื้องต้น และได้ให้ผู้ปกครองออกมารอข้างนอกโดยหมอได้สอบถามเด็กตามลำพัง ไม่นานหมอ(หรือพยาบาล)ได้ออกมา และเรียกผู้ปกครองไปพบแจ้งว่าได้สอบถามเด็กแล้ว เด็กเล่าให้ฟังว่าถูกนักเรียนชาย 2 คน เรียนอยู่ห้องเดียวกันเอาหลอดแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ อีกคนเข้ามาข้างหลังได้เอางูหรืออวัยวะคล้ายงูขนาดเท่านิ้วกลางยัดเข้าไปในอวัยวะเพศตอนเอาออกมีเลือดไหลออกตามมา

หมอให้ไปแจ้งความตอนนั้น และให้แจ้งทางโรงเรียนทราบในคืนนั้น ทางผู้ปกครองต่างเสียใจกับข่าวร้าย แต่ตอนนั้น เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทางโรงเรียนก็ปิดแล้ว  และผู้ปกครองกับทางโรงเรียนก็ถูกกัน จึงตกลงยังไม่ไปแจ้งความในคืนนั้นเพื่อว่าจะได้ไปพูดคุยกับทางโรงเรียนก่อน


ส่วนเด็กหมอก็รักษา และให้ยากลับบ้านพร้อมย้ำว่า หากเด็กอาการไม่ดีให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน และให้มาตรวจร่างกายโดยละเอียดอีกในวันพรุ่งนี้ (21/12/61) ครับ จากนั้นผู้ปกครองได้พาเด็กกลับ เวลาก็ดึกมากแล้ว เด็กได้รับยาเขาก็หลับ และตื่นมาอีกช่วงตีสาม เขาทุรนทุรายเห็นได้ชัด ผู้ปกครองรวมทั้งญาติๆคืนนั้นไม่ได้นอนเลย

 

ตอนเช้าตรู  ผมได้ไปหาท่านรอง ผอ.โรงเรียนที่บ้าน เพราะรู้จักสนิทสนมกันไปมาหาสู่กัน ไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านตกใจ และบอกดีแล้ว ที่มาแจ้งข่าว ดีแล้วที่ยังไม่ได้แจ้งความ ท่านนัดให้พาเด็กไปโรงเรียน ในสายๆของวันนั้น (21/12/61) เพราะตอนเช้าโรงเรียนมีกิจกรรมตักบาตร ผมได้แจ้งขอพบท่าน ผอ.โรงเรียนด้วย ท่านก็รับปากจะแจ้งให้ตามนั้น

 

พอสาย (21/12/61) ผม ย่า พี่สาว และหลานที่เจ็บไปโรงเรียน พอไปถึงไม่มีเลยสายตาที่เอื้อเฟื้อ เขามองเด็กหญิงเหมือนตัวร้ายที่ไปหาเรึ่องเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนให้ได้รับความเสียหาย เป็นผู้มาทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน ส่วน ผอ.ที่ขอพบก็ไม่ได้พบ ครูแจ้งว่าท่านต้องไปทำธุระ แต่ผู้ปกครองเห็นว่าท่านไปนั่งทานอาหารร้านหน้าโรงเรียนอยู่ตั้งนาน จนผู้ปกครองทุกๆคนรวมทั้งครูชึ่งมีความเห็นที่ต่างกันมาก มีคลิปทางโรงเรียนยืนยันไม่มีเหตุการณ์เกิดในโรงเรียน เราผู้ปกครองต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากคำพูดนั้นทุกๆคน ชึ่งนอกจากหลานสาวแล้วที่เจ็บเราก็เจ็บช้ำไปอีก เพราะหลานตัวน้อยเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ไปทำให้โรงเรียนเสียหาย แทนที่ทางโรงเรียนจะให้ความเป็นธรรมหรือถามว่าหนูเจ็บมากไหม ใครทำหนู ทำที่ไหน เล่าให้ครูฟังชิ หนูไปโดนอะไรมา ไม่เคยถามเลยครับ มีแต่พูดว่ามาทำลายชื่อเสียงโรงเรียน เพื่อเรียกร้องเอาเงินสิ่งที่ผู้ปกครองได้เห็น ในวันนั้นคือการขาดเมตตาธรรมเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีคุณธรรมเลยครับ ทางผู้ปกครองจึงได้นำเด็กหญิงไปแจ้งความเพื่อจะได้มีใบตรวจจากแพทย์ว่าเด็กไม่ได้ใส่ร้ายโรงเรียน ไม่ได้ใส่ร้ายเด็กนักเรียนชาย 
 


พอไปถึงท่านร้อยเวร ท่านดีมาก ท่านเห็นเด็กมีเลือดไหลออก จึงรีบให้พาเด็กไปหาหมอ และทำใบส่งตรวจให้  ขามีเลือดออกตลอด ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ และได้รับความเจ็บปวดมากครับ

ไปหาหมอที่โรงพยาบาล ท่านตรวจโดยละเอียดรวมทั้งท่านได้สอบถามเด็กเป็นการส่วนตัว และได้แจ้งให้ทางผู้ปกครองทราบว่าพบรอยบวมแดงๆรอบช่องคลอด สงสัยว่ามีการร่วมประเวณี 


รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ซักถามเด็กว่ารู้จักชื่อคนที่ทำไหม ทำที่ไหน น้องได้เล่าว่า วันที่เกิดเหตุ หลังรับประทานอาหารกลางวัน น้องได้ไปเข้าห้องน้ำ พบเด็กชาย 2 คน เรียนอยู่ห้องเดียวกัน และเด็กชายอีกคน เรียนอยู่  ป.2 โรงเรียนเดียวกัน แอบอยู่ข้างต้นไม้ (ไม้พุ่มไม้ประดับ) บริเวณหน้าห้องน้ำ พอตอนน้องเปิดประตูออกมา เด็กชายทั้งสองได้ดันประดูเข้าไป และดึงกางเกงลิงน้องลง คนหน้าได้เอาหลอด แทงหรือแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศ อีกคนข้างหลัง ได้เอางู หรืออวัยวะคล้ายงู ขนาดนิ้วกลาง ถูหรือยัดเข้าไปในอวัยวะเพศน้อง ไดัรับความเจ็บปวดมาก ตอนเอาออกน้องเห็นมีเลือดไหลออก เด็กชายทั้งสองพอทำเสร็จก็วิ่งกลับออกไป ส่วนน้องก็ได้กลับชั้นเรียน โดยไม่ได้บอกให้ครูประจำชั้นทราบครับ


หมอได้แนะนำให้พาน้องไปรักษาตัวต่อ และตกเย็นวันนั้น (21/12/2561) คณะครูประกอบด้วย ผอ., รองผอ. และครูหลายๆคนได้มาที่บ้าน และทางโรงเรียน ปฏิเสธว่า ดูแลเด็กแบบดีมากไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดในโรงเรียน หากจะเกิดก็คงเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เด็กเล่นเครึ่องเล่น หรือปั่นจักรยาน จนทำให้มีเลือดออก และให้ทำการย้ายเด็กไปเรียนที่โรงเรียนอื่นซะ (ขอยืนยันคำพูดว่าจริงมีพยานครับ) โดยผมได้โต้เถียงไปว่าไม่ย้ายเพราะเด็กเป็นผู้ถูกกระทำ ถ้าจะย้ายควรย้ายผู้ที่ทำไปรักษาทางจิตมากกว่า ตอนก่อนกลับทางครูได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ หากเด็กเจ็บหรือเป็นอะไรให้โทรหา

คืนนั้นอาการเด็กแย่มากเขาเจ็บปวดทุรนทุรายร้องทางผู้ปกครองไม่กล้าโทรไปหาครู ตอนเช้าๆจึงได้โทรไป สายติดแต่ไม่มีคนรับ โทรไป3 รอบ ต่างเวลากัน ติดแต่ไม่มีคนรับสาย ผมจึงได้พาน้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง นัองได้เข้าทำการรักษาที่นั่นแบบดีมากๆ คุณหมอสหวิชาชีพพยาบาลเอาใจใส่ดีสุดๆ ที่นั่นน้องได้ให้ปากคำกับสหวิชาชีพไว้ ส่วนทางโรงเรียนก็ไปเยี่ยม  2-3 ครั้ง วันแรกที่ไปมีครูตามไปทีหลัง3-4คน เพื่อไปให้ข้อมูลที่ต่างออกไป

โดยจะเล่าให้หมอฟังไปอีกแบบ แบบที่ว่าน่าจะไปเล่นของเล่นในโรงเรียน หรือเล่นที่บ้าน หรือโดนที่บ้าน ไม่ไช่ที่โรงเรียนส่วนครูประจำชั้นก็ไปเยี่ยม2-3ครั้ง บ้านเขาอยู่ไม่ไกลโรงพยาบาล หลังจากนั้น  ทางโรงเรียนไม่เคยถามไถ่อะไรเลย ไม่ให้พบกับผู้ทีถูกกล่าวหา


เด็กออกโรงพยาบาลวันที่ (25/12/2561) จนเด็กออกมาแล้วผมจึงไปขอพบ ผอ. โรงเรียน ท่านไม่ว่างพบ ผมจึงเขียนหนังสือฝากไว้ ท่านก็ไม่ตอบ ผมเห็นว่าวันเวลาก็ผ่านไปหลายวันแล้ว จนถึงวันที่ (7/1/2562) ผมจึงได้ไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี ชึ่งทางเขตทราบก็รีบมาที่โรงเรียน แต่ทางโรงเรียนก็มีความเห็นต่าง เขตได้มาเยี่ยมเด็กมีของเยี่ยม และถ่ายรูปไว้ใช้เวลา 2-3 นาทีก็กลับ และรับปากจะพาเด็กไปพบแพทย์ตามนัดที่โรงพยาบาล

 

วันที่ (8/1/2562) เด็กไปหาหมอโดยผู้ปกครองพาไปเอง และมีครู 2 คน จากเขต และมีครูประจำชั้น และครูอีกคนไปเป็นเพื่อน ครูก็ไปเอง วันนั้นทุกๆคนได้พบสหวิชาชีพ ท่านชี้แจงให้ฟังแบบละเอียดมากๆว่าเด็กถูกข่มขืนมาจริง จนค่ำทุกคนอยู่โรงพยาบาลนั้นและหมอยังให้นำหลานผมไปพบจิตแพทย์อีกในวันรุ่ง และให้ครูพาเด็กชายที่ถูกกล่าวหาไปพบแพทย์ รวมทั้งให้ผอ. และ รอง ผอ. ไปพบ

 

วันต่อมาวันที่ (9/1/2562) ผู้ปกครองก็ได้พาเด็กไปเองอีกครั้ง ตามนัด มีครู 2 คน ตามไป และได้พบจิตแพทย์ทุกๆคน แต่ทางเด็กชาย หรือทาง ผอ. หรือรองผอ. ไม่ไป ทางโรงเรียนได้ฝากหนังสือไว้กับตำรวจที่ป้อม (บ้านผมอยู่ใกล้ๆป้อมตำรวจ) 

 

วันที่ท่านมา ประมาณวันที่ 18-20/1/2562 ตกเย็นวันที่ท่านมา ท่านมาพร้อมกับประธานสถานศึกษา ได้มาขอโทษกับเหุตการณ์ที่เกิดขึ้น และทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านกำลังหาแนวทางช่วยเหลือเบึ้องต้น  โดยจะช่วยเยียวยา10,000 บาท และได้ขอร้องทางญาติๆ อย่าติดต่อไปทางหน่วยงานไหน เพราะหากไปแล้ว มูลนิธิทราบเรื่องเขาจะไม่ให้ความช่วยเหลืออุดหนุนงบประมาณทางโรงเรียน  และเด็กๆจะขาดแคลน 

 

*****ทางผอ.ยังรับปากว่า อีกสิบวันหรือไม่เกินวันที่ 26 มกราคม 2562 จะพาผู้ปกครองของเด็กทั้งสองมาเจรจา รอมชอมกัน  ก่อนกลับ ทางผอ.ยังย้ำว่าขอร้อง อย่าไปร้องเรียนที่อื่นๆ หรือลงเฟซ ลงโชเชียลฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ และไม่ได้วางเงินเยียวยาแต่อย่างใดแม้แต่บาทเดียว


พอเวลาผ่านไปถึงกำหนดผมได้โทรหา ท่านผอ.ท่านไม่ว่าง กำลังประชุมอยู่ ผมก็รอต่อไปอีก จนนานวันเข้า จึงไปร้องที่เขต แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ท่านให้รอผลคดีก่อน เพราะต้องรอผลคดี ท่านว่าแบบนี้ ส่วนทางโรงเรียนก็ปิดภาคเรียน ไม่รู้จะตามที่ใครครับ

 

จนเมื่อต้นเดือนมีนาคม ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้แจ้งว่ามีความเห็นสั่งฟ้องคดีไปยังพนักงานอัยการแล้ว และต้นเดือนเมษายน ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ไปรับใบแจ้งสิทธิ และให้ไปติตตามผลของคดีที่อัยการเด็กครับ ผมได้ไปแจ้งสิทธิที่ยุติธรรมจังหวัดเมึ่อประมาณต้นเดือนเมษายน และได้ไปพบอัยการ ท่านแจ้งว่าคดีอาญาสิ้นสุดลงแล้ว ท่านลงความเห็นว่าได้กระทำผิดจริง แต่เด็กนั้นยังอายุไม่ถึง10 ปี กระทำความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษประมาณนั้นครับ และผมยังได้ไปแจ้งที่เขตทราบ และส่งเอกสารคำสั่งดังกล่าวไว้แล้ว เมื่อประมาณวันที่ 3/4/2562

ส่วนทางโรงเรียนนั้น วันหนึ่งผมไปธุระผ่านไปทางบ้านท่านผอ.พอดี ท่านว่ากำลังหาแนวทางช่วยเหลือ เพราะทางโรงเรียนไม่มีเงินครูทุกๆคนต้องออกเงินมาช่วยกัน และจะรีบนำเข้าที่ประชุมครู ในวันที่ 6 /5/2562 ผมก็คอยรับการประสานหรือติดต่อจากทางโรงเรียนเรื่อยๆมา

 
จนถึงวันที่ 27/5/2562 ทางคณะผู้ปกครองจึงไปตามเรื่องที่เขต3 ไปกันหลายคนทุกๆคนล้วนเป็นญาติกันครับ คำตอบคือให้รอไปอีกเดือนหนึ่งชึ่งผม และญาติๆ ทุกๆคน เห็นว่ารอมาเกินห้าเดือนแล้ว ตัวผอ.ก็มาหลอก สรุปคือนับจากวันเกิดเหุตจนวันนี้ ทางผู้ปกครองหรือเด็กหญิงอันเป็นผู้เสียหายยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ หรือเยียวยาจากพ่อแม่เด็กผู้กระทำ รวมทั้งทางโรงเรียนเลยแม้แต่บาทเดียว

การเดินทางการรักษาเด็กนับจากเกิดเหตุ จนวันนี้เดินทางไปกลับโดยผู้ปกครองการรักษาผู้ปกครองจ่ายเอง เพราะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจึงได้รับความทุกข์ใจอย่างมาก วอนทนายรณณรงค์ช่วยให้ความเป็นธรรมกับหลานผมด้วย ขอบคุณแทนเด็กหญิงตัวน้อยๆด้วยครับ
 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.