เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศเดินรถโดยสาร สายกาญจน์-ระยอง ได้แล้ว หลังสถานการณ์โควิด -19 ระบาด


2 ก.พ. 2564, 20:32



ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศเดินรถโดยสาร สายกาญจน์-ระยอง ได้แล้ว หลังสถานการณ์โควิด -19 ระบาด




วันนี้ ( 2 ก.พ.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 607/2564 เรื่อง ยกเลิกกรระงับการเดินทางรถโดยสารประจำทางสาธารณะเป็นการชั่วคราว ในเส้นทาง จังหวัดกาญจนบุรี - ระยอง - กาญจนบุรี

ทั้งนี้ตามอนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5527/2563 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563  เรื่อง ระงับการเดินทางรถโดยสารประจำทางสาธารณะเป็นการชั่วคราว ในเส้นทางจังหวัดกาญจนบุรี - ระยอง - กาญจนบุรี นั้น

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID - 19 ) ในจังหวัดระยอง คลี่คลายลง สามารถจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้อยู่ในขอบเขตได้เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ดังนั้น เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง

อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1) ของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ( ฉบับที่ 1 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และ ( ฉบับที่ 18 ) ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2564

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี

ที่ 5527/2563 ลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2563 เรื่อง ระงับการเดินทางรถโดยสารประจำทางสาธารณะเป็นการชั่วคราวในเส้นทางจังหวัดกาญจนบุรี - ระยอง - กาญจนบุรี

และให้มีการเดินทางรถโดยสารประจำทางสาธารณะในเส้นทางจังหวัดกาญจนบุรี - ระยอง - กาญจนบุรี ได้ตามปกติ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบและกำกับดูแลการขนส่งผู้โดยสาร ให้เป็นตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป จะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรค 2 (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตมมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิด ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

 

 



 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.