วันที่ 30 ก.ค.2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พลตำรวจตรี สัณห์ โพธิ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แถลงข่าวผลการจับกุมและตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ และตรวจยึดท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงตกแต่งให้มีเสียงดัง รวมทั้งการตรวจเข้มเยาวชนที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีนโยบายให้ระงับยับยั้งหรือแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางหรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น การรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะหรือโดยพฤติการณ์ที่น่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งรถในทาง อันเป็นการก่อความเดือดร้อน รำคาญ และเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม  ซึ่งได้มีการแถลงข่าวพร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ ณ  ลานหน้าอาคารตำรวจภูธรจังหวัดน่าน

 

พลตำรวจตรี สัณห์ โพธิ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งทั้ง 15 อำเภอ ทั่วทั้งจังหวัดน่าน ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการตั้งด่านตรวจและจุดสกัด รวมจำนวน 115 ครั้ง สามารถจับกุมดำเนินคดีในกรณีเด็กหรือเยาวชนไม่มีใบขับขี่ จำนวน 98 ราย ยึดรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพและผิดกฎหมายได้ 75 คัน  ดำเนินการทำทัณฑ์บน 94 ราย จับกุมดำเนินคดีผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ได้จำนวน 207 ราย และ ยึดรถได้ 8 คัน  ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพ จำนวน 131 คัน ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ดัดแปลงให้มีเสียงดัง จำนวน 48 อัน   โดยได้มีการแจ้งผู้ปกครองให้รับทราบการกระทำความผิดของบุตรหลาน ซึ่งผู้ปกครองอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ด้วย  พร้อมทั้งประสานสถานศึกษาให้เน้นย้ำสร้างความรู้และความเข้าใจไม่ให้เด็กนักเรียน นักศึกษากระทำผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์หรือให้บริการตกแต่งรถจักรยานยนต์ ต้องไม่ให้สนับสนุนการตกแต่งหรือดัดแปลงสภาพที่ผิดกฎหมายด้วย  โดยผลการจับกุมและการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนหนึ่งได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนในทุกพื้นที่ ได้ร่วมกันสอดสองผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมการแข่งรถในทาง และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล ของพี่น้องประชาชน โดยแจ้งข้อมูลผ่าน สายด่วน 191  line@191 Police nan และ Applicaton Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องในภาพรวม อย่างต่อเนื่อง เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความสงบสุขของสังคมต่อไป