เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 62  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านยาง หมู่ 1 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นางจิราภรณ์  ศรีแก้ว ปลัดอำเภอกันทรารมย์ ได้เป็นตัวแทนของนายอำเภอกันทรารมย์ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 ก.ค. 2562

 

ซึ่งภายหลังจากประกอบกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติแล้ว เจ้าคณะ อ.กันทรารมย์ พร้อมด้วย พระครูบวรสังฆรัตน์  รองเจ้าคณะ อ.กันทรารมย์  เจ้าคณะตำบลทุกตำบล เจ้าอาวาสวัดทุกวัดในเขต อ.กันทรารมย์ ได้รวบรวมเงิน จำนวน 16,450 บาท ไปแบ่งมอบให้กับ ด.ญ.อาทิตย์ติยา  ชัยรัตน์  อายุ  9 ปี  นักเรียนชั้น ป.3 ร.ร.บ้านยาง และ  ด.ญ.วิภาพร  วรรณทวี อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ร.ร.เดียวกัน คนละ  5,500 บาท  เนื่องจากว่า เด็กหญิงทั้ง 2 คน พิการมาตั้งแต่กำเนิด  ไม่มีรูทวารหนัก  และมอบให้นางสุขส่ง  เทพอาษา  อายุ 63 ปี  ซึ่งมีฐานะยากไร้ จำนวน  1,450 บาท  มอบให้ ร.ร.บ้านยาง จำนวน 4,000 บาท เพื่อใช้ในการพัฒนา ร.ร.พร้อมทั้งมอบเครื่องใช้ในการอุปโภค บริโภคจำนวนมาก  ให้ กับ ร.ร.และครอบครัวของเด็กพิการทั้ง 2 คนด้วย

 

 

 

พระครูโสภิตสารธรรม เจ้าคณะ อ.กันทรารมย์ กล่าวว่า  หลังจากที่ทราบข่าวความพิการอย่างน่าเวทนาของเด็กหญิงทั้ง 2 คนแล้ว อาตมาภาพได้แจ้งไปยังรองเจ้าคณะ อ.กันทรารมย์ เจ้าคณะตำบลทุกตำบล และเจ้าอาวาสวัดทุกวัดในเขต อ.กันทรารมย์ เพื่อขอให้รวบรวมปัจจัยนำเอามาให้การช่วยเหลือเด็กหญิงทั้ง 2 คน และมอบให้กับทาง ร.ร.ที่ได้ให้การช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองนักเรียนทั้ง 2 คน มาโดยตลอด คณะสงฆ์ อ.กันทรารมย์ พร้อมที่จะเข้าไปให้การช่วยเหลือพุทธศาสนิกชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความสงบสุขในสังคมไทยต่อไป

 

นายนาวิน  วรศักดิ์มหาศาล  ผอ.ร.ร.บ้านยาง กล่าวว่า เด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 คน มีความพิการทางร่างกายเรียนร่วมกับเด็กนักเรียนปกติ จำนวน 2 คน โดยมีลักษณะของความพิการ คือ ด.ญ.อาทิตย์ติยา ชัยรัตน์ อายุ 9 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 ต.ยาง อ.กันทรารมย์ พิการ ไม่มีช่องขับถ่ายทั้ง 2 ช่อง คือ รูทวารหนักและรูทวารเบา เคยไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี โดยทางโรงพยาบาลได้ทำการเจาะช่องท้องด้านข้างของลำตัวทั้ง 2 ข้าง ให้เป็นช่องขับถ่าย เป็นช่องถ่ายหนัก 1 ช่อง และถ่ายเบา 1 ช่อง ไม่มีถุงห้อยถ่ายข้างกายไว้เป็นที่รองรับของเสีย  แต่ใช้วิธีการนำเอาสำลีแผ่นใหญ่เหมือนแพมเพิสมาปิดรูเอาไว้เพื่อซับของเสียที่ขับออกมา

 

 

เวลาที่เด็กมาเรียนหนังสือจะมีผู้ปกครอง คือ ย่า มาเฝ้ารอทำความสะอาดเวลาขับถ่ายและเปลี่ยนสำลีให้อยู่ที่ ร.ร.ประมาณ 3 - 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสารมาก  ทางโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ แจ้งว่า จะทำการรักษาอย่างไรก็ไม่เป็นปกติ ทำได้เพียงเท่านี้

 

 

นอกจากนี้แล้ว ด.ญ.อาทิตย์ติยา ยังมีโรคประจำตัวคือ โรคไต โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ไม่ได้รับยา ให้ควบคุมอาหาร งดอาหารประเภทเนื้อ งดอาหารรสจัด ให้กินผักเยอะ ๆ ไม่ให้กลั้นปัสสาวะ  พ่อแม่หย่าร้างกัน ต้องอาศัยอยู่กับปู่และย่าที่ชราและมีฐานะยากจนมาก