ผู้ว่าฯ แถลง หญิงอายุ 32 ปี ติดเชื้อโควิด 1 ราย มาจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ขณะที่ผู้ใกล้ชิด 4 ราย ตรวจหาเชื้อโรคและกักตัวภายในบ้าน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตรวจประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง กักตัว 14 วัน

 

วันนี้ ( 27 ธันวาคม 2563 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายภูวเดช สุระโคตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ พ.ต.อ.สุวิจักขณ์ จันทร์เยี่ยม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ที่มีหญิงสาวอายุ 32 ปี ติดเชื้อเป็นรายแรก ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นหญิงอายุ 32 ปี เปิดร้านขายชาพะยอม สาขาวัดเจษฎาราม จ.สมุทรสาคร เป็นผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับ (ผู้ป่วยยืนยัน จ.ตรัง) โดย กระทรวงสาธารสุข ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) ยืนยันผลตรวจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้ป่วยหญิงชาวสุรินทร์ อายุ 32 ปี คนดังกล่าว ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทสาคร กลับมาบ้านที่ จ.สุรินทร์ และถือว่าเป็นผู้ป่วยรายแรกของจังหวัดที่ติดเชื้อมาจากที่อื่น

 

โดย นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ได้รับรายงานว่า จังหวัดสุรินทร์ พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มอีก 1 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 10 ราย ซึ่งมีรายละเอียดของผู้ป่วยรายใหม่ ดังนี้ ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 32 ปี เริ่มป่วย วันที่ 22 ธันวาคม 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก และปวดศีรษะ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวันที่ 24 ธันวาคม 2563 มีอาการไข้ เจ็บคอ ส่งตัวอย่างตรวจหาเชื้อ COVID-19 ผลยืนยันพบเชื้อ (Positive) ในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 เวลา 14.15 น.

ผู้ป่วยมีอาชีพค้าขายที่จังหวัดสมุทรสาคร และเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ ขณะนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่เดินทางจากจังหวัดสมุทรสาครและสถานที่อื่นๆ ติดตามประกาศของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตั้งแต่วันที่ 1ธันวาคม 2563 รายงานตัวกับผู้นาชุมชน หรือ อสม. ภายใน 24 ชั่วโมง และขอแนะนำประชาชนให้ ยึดหลัก “ลด เลี่ยง ดูแล” คือลดความเสี่ยงด้วยการล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากเคหสถาน หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น และหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า

 

นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า ได้ประสานนายอำเภอพื้นที่ชายแดน ประสานการปฏิบัติ งานกับเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังสุรนารี ตำรวจตระเวนชายแดน ทหารพราน ในป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา นอกจากนั้นยังตั้งจุดคัดกรองจุดสกัด ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดพื้นที่สีแดง จังหวัดสมุทรสาคร ต้องรายงานตัวกับ ผู้นำท้องถิ่น อสม.กักตัวตรวจเชื้อ 14 วัน ส่วนจังหวัดอื่นๆ ไม่กักตัว แต่ต้องรายงานต่อผู้นำท้องถิ่นตรวจหาเชื้อ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะที่นายภูวเดช สุระโคตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กรณีที่หญิงอายุ 32 ปี ที่อำเภอศรีณรงค์ ที่ติดเชื้อโควิด -2019 ทางสาธารณสุข อำเภอและจังหวัดได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค และดำเนินการตรวจหาเชื้อกับผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 ราย ซึ่งตลอดช่วงเวลาที่ใกล้ชิดได้มีการเว้นระยะห่างสวมหน้ากากอนามัย ป้องกันตัวตลอดเวลา ไม่มีการเดินไปพบปะชาวบ้านคนอื่นๆและได้ทำความสะอาดบริเวณบ้าน กักตัวตรวจเชื้อในบ้าน และไม่ได้ปิดหมู่บ้านแต่อย่างใด เพราะเรามีการเฝ้าระวัง แนะนำประชาชนในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดประชาชนก็เข้าใจดี