เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ครูชลธี" เครียดหนัก ! ศาลเยาวชนฯ จ.กาญจนบุรี ยกฟ้องกรณีฟ้องหย่า "ครูปุ้ม" อดีตภรรยา


17 ธ.ค. 2563, 15:20



"ครูชลธี" เครียดหนัก ! ศาลเยาวชนฯ จ.กาญจนบุรี ยกฟ้องกรณีฟ้องหย่า "ครูปุ้ม" อดีตภรรยา




จากกรณีครูเพลงชื่อดัง นายสมนึก  ทองมา “ชลธี ธารทอง” วัย 83 ปี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ปี 2542 เจ้าของฉายาครูเพลงเทวดา ได้ฟ้องหย่านางศศิวิมล หรือ ครูปุ้ม ทองมา อดีต​ภรรยา วัย 51 ปี หลังจดทะเบียนสมรสกันในปี 38 อยู่กินกันมากว่า 30 ปี แต่ไม่มีบุตร ซึ่งได้มีการฟ้องหย่ากันมานานตั้งแต่ปี 57 แล้ว สาเหตุเพราะทนความหึงหวงของอดีตภรรยา​ไม่ไหว มีการทะเลาะกันรุนแรง​ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ตามหมายเลขคดีดำที่ ยชพ. 9/2563 ลงวันที่ 23 ม.ค. 63 ศาลได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์เมื่อวันที่ 21ต.ค. ฝ่ายจำเลยวันที่ 22 ต.ค. 63

 

วันนี้ 17 ธ.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี นัดทั้ง 2 ฝ่ายฟังคำพิพากษา ซึ่งนายสมนึก  ทองมา หรือครูชลธี  ธารทอง ได้เดินทางไปที่ศาลพร้อมกับทนายความ และสาวคนสนิท เพื่อรับฟังคำพิพากษาจากศาล โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เสร็จสิ้นการรับฟังคำพิพากษา โดยศาลได้มีการยกการฟ้องหย่า กับ นางศศิวิมล หรือครูปุ้ม ทองมา ซึ่งการเดินทางไปศาลในครั้งนี้ ครูปุ้ม ไม่ได้เดินทางไปรับฟังคำพิพากษาในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากติดการประชุม โดยส่งให้ทางทนายความเป็นตัวแทนเข้ารับฟังแทน และหลังจากศาลได้ยกการยกฟ้องการหย่าแล้ว ทางฝ่ายครูชลธี พร้อมคณะได้เดินทางลงทางหลังศาลออกจากศาลไปโดยไม่พบกับสื่อมวลชนที่ไปรออยู่ด้านหน้าศาลทันทีไม่ยอมพบกับสื่อที่ปักหลักรอด้านหน้าศาล

 

ต่อมานางศศิวิมล  หรือครูปุ้ม ทองมา เสร็จจากการประชุมได้เดินทางมายังศาลฯ ได้พบกับนายธีระพงษ์ ปีตวัฒนกุล ทนายความส่วนตัว ครูปุ้ม พร้อมได้กล่าวว่า ศาลเมตตาบรรยายการยกฟ้องอย่างละเอียดทุกข้อแต่ละข้อ พร้อมที่มาที่ไปชัดเจนมาก หลังจากนี้ต้องรอดูว่าทางฝ่ายโจทก์จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

ส่วนนางศศิวิมล หรือครูปุ้ม ทองมา ได้กล่าวว่าต้องขอบคุณศาลที่ได้ให้ความเมตตาตัดสินในความเป็นจริงและถูกต้อง รู้สึกดีใจที่ความถูกต้องยังคงอยู่ และอยากจะฝากสังคมว่า การทำอะไรก็แล้วแต่ หากเราทำดีอยู่บนความถูกต้องอะไรก็แล้วแต่จะไม่สามารถทำอะไรเราได้ และฝากไปถึง ครูชลธี ว่าครอบครัวพร้อมลูกทั้ง 2 คน ยังรอ ครูอยู่ ครูปุ้ม รู้ดีว่าครูชลธี เหนื่อย ครูชลธี ถูกบีบครั้นหลายไอย่าง สังคมเมตตาครูด้วย ครูชล อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่โอเค ครูปุ้ม รู้ดี ถึงอย่างไร เรา 3 คน ลูกทั้ง 2 ยังรอครูอยู่ พร้อมฝากครูชล ด้วยว่าเดือนมกราคม วันที่ 6 ลูกชายคนโตจะต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดใหญ่ต้องใช้เงินเป็นแสนบาท อยากให้ครูโทรหาลูกด้วย ตนเองได้ดูแลอยู่และฝากทุกๆ ฝ่ายที่เฝ้าติดตามเรื่องนี้ ครูปุ่มจะยืนเคียงข้างความถูกต้อง ครูปุ้มไม่เคยคิดร้ายใดๆ แต่จะยืนอยู่บนความถูกต้องเท่านั้นต้องขอบคุณศาลที่ให้ความเมตตาวันนี้ครูปุ้ม มีความสุขที่สุด

 

และ ครูปุ้ม กล่าวต่อว่า ครูชลธี เป็นโจทก์ก็ยังสามารถที่จะอุทธรณ์ ไปจนถึงการฎีกา หากครูชล ยังคิดว่าอยากจะได้ใบหย่า แต่ครูปุ้มยังยืนยันว่าจะไม่หย่าเด็ดขาด เพื่อรักษาสมบัติ รวมถึงชีวิตของคุณครู เพื่อรักษาไว้ให้แผ่นดินนี้ และที่ครูปุ้มพูดอย่างนี้คนไทยทั้งแผ่นดินคงทราบว่า ครูปุ้มหมายถึงอะไร ครูปุ้มพูดถึงบางคนมองว่าทำไทเขาไม่รักแล้ว ครูปุ้มยังดื้ออีก เหตุผลเดียวคือ ครูปุ้มต้องการรักษาสมบัติรวมถึงรักษาชีวิตครูชล ครูเป็นบุคคลเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติ

 

ส่วนในเดือนมกราคม 2564 ยังมีคดีคำพิพากษา จากที่ ครูปุ้ม ฟ้องบุคคลที่ 3 ที่ทำให้ครอบครัว ครูปุ้ม ต้องเป็นแบบนี้ ทำให้ครูชลธี ต้องเกิดความเสียหาย เสียชื่อเสียงของวงษ์ตระกูล

 

สำหรับด้านครูชลธี  ธารทอง ไม่ได้พูดใดๆ และได้ให้ทางด้าน นายดนุเดช  ศิริวงษ์ตระกุล ทนายความเป็นผู้ชี้แจง โดยทางทนาย กล่าวว่าที่ศาลได้ยกฟ้องท่านได้มีดุลพินิจเราไม่สามารถก้าวล่วงได้ แล้วได้มีการปรึกษากับ ครูชลธี แล้วว่าจะใช้สิทธิอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน ส่วนความรู้สึกของครูชลธี ท่านก็นิ่งๆ จริงๆ แล้ว ครูชลธี มีเจตนาที่จะหย่าขาดกับครูปุ้ม แต่เมื่อศาลดูเจตนาไม่ถึงขั้นฟ้องหย่า ครูชลธี ก็เคารพในคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะทนายความศาลได้วินิจฉัยไว้ว่า ในข้อหาที่หมิ่นประมาทโจทก์นั้น ศาลได้วินิจฉัยว่าคดีที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี นั้นยังไม่สิ้นสุด หากคดีนั้นสิ้นสุดแล้วก็สามารถนำมาเป็นการฟ้องหย่าได้ แล้วหากเรานำสืบว่ามีการทำร้ายร่างกาย ศาลวินิจฉัยว่าฝ่ายโจทก์ไม่มีพยานบุคคลตรงนั้น ตรงนี้ก็จะใช้สิทธิอุทธรณ์ ทางทนายความก็ได้นำหลักฐานใบรับรองจากทางแพทย์  รวมถึงพยานบุคคลที่ทางโจทก์ ได้ให้ปากคำว่าที่อยู่โรงพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวโจทก์ แล้วก็ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ทางโจทก์ได้ไปดำเนินคดีกับทางบริษัท รวมถึงนักร้องดังอีก ทางศาลมองว่าทางจำเลยไม่มีความคิดเห็นไปในทางเดียวกับโจทก์ จึงไม่เป็นที่มาของการฟ้องหย่า จึงเป็นเหตุให้ทางโจทก์จะต้องมีการอุทธรณ์ต่อไป เพราะการทำตัวเป็นปฏิปักษ์ในข้อกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ รวมถึงการหมิ่นประมาทกับบุพการี จึงเป็นที่มาของการอุทธรณ์ได้ต่อไป

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.