วันที่ 8 ธ.ค. 63 ที่ สภ.เมืองสระบุรี จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 เวลา 17.00 น.พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ สว.สอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจาก นางน้อย ทองนรินทร์ อายุ 40 ปี และ ด.ญ.เพชรไพริน (น้องมิ้น) ธูปสารี อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนวัดเขาลาดวนาราม(พิพัฒน์คีรีเขต) อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 127 ม.12 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่าตนเองพร้อมด้วยลูกสาวได้เก็บกระเป๋าเงินได้ ซึ่งในกระเป๋าเงินได้ บริเวณร้านโจ๊ก ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ภายในมีเงินสดอยู่ 30,630 บาท พร้อมบัตร เอทีเอ็ม ของ ธ.กรุงไทย 1 ใบ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของใคร จึงได้นำมาแจ้งความลงบันทึกไว้ เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาเจ้าของเงิน ต่อมาไม่นานได้มี นาย สะอาด พรมเมืองเปลือย อายุ 72 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย บ้านเลขที่ 205 ซ.1 ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้เดินทางเข้ามาแจ้งความว่าตนเองได้ทำกระเป๋าเงินหาย ไม่ทราบว่าหล่นหายตรงไหน ซึ่งภายในกระเป๋ามีเงินสดอยู่ สามหมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บจากการขายของเก่า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ถามว่าเป็นกระเป๋าเงินแบบไหน ซึ่งนายสะอาด ตอบว่าเป็นกระเป๋า แบบพับได้ สีดำ มีรูปหัวกะโหลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกระเป๋าเงินดูว่าใช่กระเป๋าเงินที่หล่นหายหรือไม่ ซึ่งนาย สะอาด ตอบว่าใช่ โดยบอกได้ถูกต้องว่าภายในกระเป๋ามีอะไรอยู่บ้างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยัง นางน้อย และน้องมิ้น 2 แม่ให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เพื่อที่จะส่งมอบคืนเงินให้ นายสะอาด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นสักขีพยาน

ในวันนี้ เวลา 10.00 น. นางน้อย ทองนรินทร์ และ ด.ญ.เพชรไพริน(น้องมิ้น) ธูปสารี พร้อมด้วยนาย สะอาด พรมเมืองเปลือย และหลานๆ ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อพบกับ พ.ต.ท.ภัฏ ผดุงรัตน์ สว.สอบสวน สภ.เมืองสระบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกระเป๋าเงิน ออกมาให้ ด.ญ.เพชรไพริน(น้องมิ้น) มอบส่งคืนให้กับ นาย สะอาด เพื่อตรวจนับเงินที่อยู่ภายในกระเป๋าดูว่าอยู่ครบหรือไม่ ซึ่งภายในกระเป๋าเงิน มีแบงค์ 1,000 จำนวน 25,000 บาท แบ็งค์ 500 จำนวน 2,000 บาท แบ็งค์ 100 จำนวน 3,500 บาท แบ็งค์ 50 จำนวน 100 บาท แบ็งค์ 20 จำนวน 1 ใบ และแบ็งค์ 10 รุ่นเก่าจำนวน 1 ใบ พร้อมด้วยบัตร เอทีเอ็ม 1 ใบ จากนั้นทาง นายสะอาด ได้มอบเงินให้ ด.ญ.เพชรไพริน จำนวน 3,000 บาท และมีแถมให้อีก 500 บาท รวมเป็นเงินที่มอบให้น้องมิ้น 3,500 บาท เพื่อเป็นสินน้ำใจในการทำความดีของ 2 แม่ลูก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นสักขีพยาน และลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

 

ทางด้านนายสะอาด พรมเมืองเปลือย กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพเก็บขยะขาย ส่วนเงินที่พกอยู่นั้นเป็นเงินที่ขายขยะมา ตนเองก็จะเก็บพกไว้ติดตัวตลอด เงินท่ายเนื่องจากว่าตนเองซื้อของแล้ววางลืมไว้ ตนเองบมรรู้ว่าเงินหายตอนที่มาซื้อของกิน จะจ่ายเงินแต่ไม่เห็นกระเป๋าเงิน จึงได้ออกตามหาแต่ไม่พบ ทำให้ตนเองเสียใจนั่งร้องให้อยู่คนเดียว จากนั้นหลานก็เลยพาตนมาแจ้งความ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว ส่วนเงินที่พกไว้ เนื่องจากฝากธนาคารไม่เป็น ถ้าจะฝากลูกหลานก็กลัวจะหมด

ทางด้าน ด.ญ.เพชรไพริน(น้องมิ้น) ธูปสารี เผยว่าตนเองและแม่ได้มาทานโจ๊กกันก่อน หลังจากเลิกเรียน เพื่อที่จะไปวาดรูปขายที่ตลาดนัด จากนั้นแม่ของตนเองได้มองไปเห็นกระเป๋าเงินที่ตกอยู่หน้าร้าน แม่ของตนจึงได้เดินไปเก็บ และเปิดออกดู พบว่ามีเงินจำนวนมากไหลออกมาจากกระเป๋า จึงได้เก็บใส่ไว้อย่างเดิม จากนั้นมีคนผ่านมาได้ถามว่า พี่ทำไมพกเงินเยอะจัง ซึ่งแม่ของตนก็ตอบกลับไปว่าอย่าหาว่าพี่พกเยอะนะ มันไม่ใช่ของพี่ ก็เลยไม่ได้กินโจ๊กกัน จากนั้นก็ได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อพาไปแจ้งความยัง โรงพัก แต่จักรยานยนต์รับจ้างขอดูบัตรประชาชน ซึ่งภายในไม่มีบัตรประชาชน จักรยานยนต์รับจ้างเลยไม่ยอมพาไป จากนั้นนางน้อยได้ขับรถจักรยานยนต์ตนเองไปยังห้าง เพื่อไปยังธนาคาร ซึ่งทางธนาคารได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตนและแม่ ไปยังโรงพัก และแจ้งความลงบันทึกไว้ ทำให้ตนอดกินโจ๊ก และอดขายภาพวาด น้องมิ้น กล่าวเสริมว่า แม่ตนได้สอนไว้ว่าถ้าเราไปขโมยของเขาตายไปจะเป็นเปรต คนจะไม่รัก และถ้าเงินของเพื่อนห้ามลัก ขโมย และเจอเงินเพื่อนตกต้องนำไปคุณครู ซึ่งตนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำความดี และสงสารเจ้าของเงินที่ทำเงินหาย