ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพะเยา แจ้งเกษตรกรงดทำนา ในช่วงฤดูแล้งนี้ หลังปริมาณน้ำในพื้นที่จังหวัดพะเยา มีไม่ถึง 32 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเกิดผลกระทบจากภัยแล้ง ขณะที่ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาขณะนี้มีอยู่เพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตรโดยทางชลประทานพะเยา ระบุว่า ขณะนี้ได้ปิดประตูระบายน้ำ และจะใช้น้ำกว๊านพะเยาในการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตน้ำประปาได้จนถึงต้นฤดูฝนหน้า

 

 

นายปาโมกข์ ปิงเมือง ผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพะเยา ต้องออกมาระบุว่า ขณะนี้ทางชลประทานและหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศและแจ้งเตือนกับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดพะเยา ให้งดการทำนาในช่วงฤดูแล้งนี้ หลังจากที่ปริมาณน้ำใน จังหวัดพะเยา เหลือเพียง 32 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเกรงจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภัยแล้ง ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้

นายปาโมกข์ ปิงเมือง ระบุว่า จากการที่พื้นที่จังหวัดพะเยา ได้อาศัยน้ำจากน้ำฝนเป็นหลัก และในช่วงที่ผ่านมาจากเดิมที่เคยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,100 มิลลิเมตร แต่มาในปีนี้จนถึงล่าสุดมีปริมาณน้ำฝนตกลงในพื้นที่เพียง 800 มิลลิเมตร และฝนที่ตกลงมาจะตกบริเวณท้ายแหล่งกักเก็บน้ำ จึงทำให้ปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆซึ่งมีพื้นที่กักเก็บน้ำ 142 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ในขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลือเพียง 46 ล้านลูกบาศก์เมตร ถือว่าน้อยมากคิดเป็น 32 เปอร์เซนต์ ขณะที่น้ำบริเวณกว๊านพะเยาซึ่งมีปริมาณกักเก็บ 55.6 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จนถึงขณะนี้มีปริมาณน้ำเพียง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 60 เปอร์เซนต์ จากสถานการณ์ที่ปริมาณน้ำ ที่มีปริมาณน้อยนี้ ทางชลประทานและหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ได้มีการประกาศให้เกษตรกรงดทำนาในช่วงฤดูแล้งนี้ และที่สำคัญน้ำที่บริเวณกว๊านพะเยา ทั้งนี้ทางจังหวัดจะได้เน้นให้ใช้ในการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะการผลิตน้ำประปาให้กับประชาชน ซึ่งในแต่ละเดือนนั้นจะใช้ประมาณ 700,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำที่มีอยู่คาดว่าจะสามารถใช้ผลิตประปาให้กับประชาชนได้จนถึงต้นฤดูฝน ขณะที่ปริมาณน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพะเยามีปริมาณน้อยมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าหากมีการทำการเกษตรหรือการทำนาและก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน