เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ผู้ว่าฯพะเยา" เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าว


11 พ.ย. 2563, 11:13



"ผู้ว่าฯพะเยา" เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าว




วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า นายชุติเดช มีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัดจังหวัดพะเยาครั้งที่ 2/2563 ซึ่งสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จัดขึ้น ที่ ห้องประชุมจอมทองชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพะเยา โดยมีคณะอนุกรรมการซึ่งประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยในที่ประชุมได้มีการแจ้งสถานการณ์การผลิตข้าวปีการผลิต 2562/63 สถานการณ์การตลาดและแนวโน้มราคาข้าวผล การดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2562/63 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 โครงการเพิ่มช่องทางการตลาดข้าวเปลือกเหนียวปีการผลิต 2563/64 จุดรับซื้อข้าวเปลือกปีการผลิต2563/64 และการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 โดยที่ผ่านมาในปี 2562/63 จังหวัดพะเยาได้มีการดำเนินการตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อกข้าว

 



สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 63/64 นั้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมาได้มีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 มาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 63/64 ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2563/64 โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกรปี 2563/64 โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกที่ 63/64 และโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 63/64 สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 จะชดเชยจำนวนตัน ในแต่ละชนิดข้าว ณ ราคาความชื้นไม่เกินร้อยละ 15 ราคาและปริมาณประกันรายได้ข้าวเปลือกหอมมะลิราคาประกันรายได้ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ณ ราคาประกันรายได้ 14,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 16 ตันข้าวเปลือกเจ้าราคาประกันรายได้ 10,000 บาทต่อตัน ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานีราคาประกันรายได้ 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนและไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียวราคาประกันรายได้ 12,000 บาทต่อตันครัวเรือนละมีคน 16 ตัน ทั้งนี้ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง ทางอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการฯ จะประกาศเป็นงวดๆ ไป ในทุกสัปดาห์สำหรับการจ่ายเงินนั้น ธ.ก.ส.จะทำการจ่ายเงินชดเชยเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงตามช่วงเวลาที่กำหนดภายใน 3 วันทำการนับตั้งแต่วันที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระในการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรไม่ต้องทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส.

 

 


ขณะที่โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 63/64 โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 63/64 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรประมาณ 4.56 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรนำข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 63 กับกรมส่งเสริมการเกษตร ส่งให้ ธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรในอัตราไร่ละ 1,000 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งนี้ จะทำการจ่ายเงินเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 63/64 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตรในอัตราไร่ละ 500 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาทก่อนในเบื้องต้น ส่วนอีก 500 บาท หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาท จะดำเนินการ จ่ายให้เกษตรกร ในคราวต่อไป

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.