เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตำรวจยัน นักเรียนถูกทำร้ายในสถานีรถไฟ ไม่เกี่ยวการเมือง ด้านป้าโร่ขอโทษครอบครัว


28 ต.ค. 2563, 14:05



ตำรวจยัน นักเรียนถูกทำร้ายในสถานีรถไฟ ไม่เกี่ยวการเมือง ด้านป้าโร่ขอโทษครอบครัว




ตำรวจพร้อมนายอำเภอและสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเพิ่มเติมกรณีนักเรียนถูกทำร้ายร่างกายในสถานีรถไฟ ด้านป้าทำร้ายร่างกายเด็กขอโทษครอบครัวนักเรียน พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวกับการเมืองแค่บันดาลโทสะ  

 

 

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2563 ที่ สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ประเวศ  ศรีนาค ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายบดินทร์ เกษม ศานตอ์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายพรชัย สมพงษ์ รอง ผอ.โรงเรียนจอมสุรางค์ อุปถัมภ์ และนักสหวิชาชีพ รวมกัน สอบปากคำเพิ่มเติมนักเรียนที่ถูกแม่ค้าขายโรตี ตบเนื่องจากไม่ยืนเคารพธงชาติ หลังจากสอบปากคำเสร็จ 

ด้าน พ.ต.อ. ประเวศ  ศรีนาค ผกก.สภ. พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เรื่องของคดีเป็นคดีเกี่ยวกับทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ รับอันตรายแก่กายและใจ ส่วนผู้เสียหายที่ถูกกระทำนั้น ก็เป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โตโยงเกี่ยวกับเรื่องสถาบันและการเมือง ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่นักเรียนไม่ยืนเคารพธงชาตินั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใดแต่เด็กคนดัง ในวันที่เกิดเหตุ เธอเป็นรอบเดือนและมีอาการปวดท้องจึงทำให้ ไม่ได้ยืนเคารพธงชาติ ทำให้ผู้ก่อเหตุ มองเห็น เข้าใจว่าเด็กไม่ยืนเคารพธงชาติจึงเข้าไปต่อว่าและเกิดการโต้เถียงกันจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวส่วนผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อตัวและที่อยู่แล้วอยู่ระหว่างการเรียกตัวเข้ามาสอบปากคำ เพิ่งจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. 

 



ด้านนายพรชัย สมพงษ์ รอง ผอ. โรงเรียน เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทางเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหายไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ยืนตรงเคารพธงชาติเนื่องจากเป็นรอบเดือนและปวดท้องแต่เพื่อนหญิงที่มาด้วยกันนั้นได้ยืนตรง ทำให้แม่ค้าสาวเห็นว่าเด็กไม่ ยืนตรงทำความเคารพจึงเกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้นส่วนเด็กหญิงนั้น เป็นเด็กดีและเป็นนักเรียนกิจกรรมมีความประพฤติเรียบร้อยและไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองตนมั่นใจว่าเด็กไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่ยืนตรงเคารพธงชาติ 

เรื่องตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของเด็กและกระแสสังคมที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้นซึ่งทางโรงเรียนก็เป็นห่วงไม่ว่าจะเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำหรือเป็นนักเรียนที่อยู่ในสถาบันของจอมสุรางค์ซึ่งเราก็ดูแลเด็กนักเรียนเป็นอย่างดีส่วนหลังเลิกเรียนแล้วเราก็ ให้เด็กๆ ทุกคนหัดดูแลตัวเองดีๆ 

เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน ที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ป้ามือตบนักเรียนไม่ยืนเคารพธงชาติ เข้ากราบขอโทษพ่อและลุง นักเรียนผู้เสียหายยืนยันเกิดอารมณ์ชั่ววูบไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง นางสาว ปู (สงวนนามสกุล) 45 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประเวศ ศรีนาค ผกก.สภพระนครศรีอยุธยา พร้อมพูดคุยทำความเข้าใจกับพ่อและลุงของเด็กนักเรียนผู้เสียหาย

นางสาวปู (สงวนนามสกุล) เปิดเผย เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากเพียงอารมณ์ชั่ววูบ เมื่อเห็นเด็กนักเรียนคนดังกล่าวไม่ยืนเคารพธงชาติ จึงได้เข้าไปสอบถามว่าเป็นคนไทยหรือเปล่าทำไมถึงไม่เคารพธงชาติแต่กลับโดนเด็กนักเรียนคนดังกล่าวย้อนกลับว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลจนทำให้ตนเองโมโหเกิดอารมณ์ชั่ววูบเข้าไปทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนคนดังกล่าวยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ตนเองเป็นคนทำมาหากินไม่เคยข้องเกี่ยวกับการเมืองเพียงแต่ฝังใจว่าตั้งแต่เล็กจนโตเกิดมาทุกคนก็ต้องยืนเคารพธงชาติ ซึ่งวันที่เกิดเหตุเด็กคนดังกล่าวไม่ได้ยืนเคารพธงชาติ จึงทำให้ตนเองไม่พอใจ และทุกครั้งที่เห็นใครไม่ยืนเคารพธงชาติ ตนก็จะถามทุกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้ ตนเองก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกแล้วถ้าหากว่าเห็นใครไม่ยืนเคารพธงชาติอีกจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ กับพ่อและลุง ของ เด็กนักเรียนคนดังกล่าวขอให้อภัยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และตนเองก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน   

ด้าน ลุง ของเด็กนักเรียนผู้เสียหาย กล่าวว่าตนเอง ยืนยันว่าหลานสาวเป็นประจำเดือน ซึ่งมีใบรับรองแพทย์ยืนยันไม่ใช่ว่าจะไม่ยืนเคารพธงชาติ อย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างไรก็ตาม ตนเองและพ่อของเด็ก พร้อมที่จะให้อภัย นางสาวปู โดยไม่ผูกใจเจ็บ ส่วนในเรื่องของคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายพร้อมฝากเตือน นางสาวปูหรือคนที่เข้ามาติดตามคดีดังกล่าวว่ายืนยันหลานตนเองไม่เคยข้องเกี่ยวกับเรื่องการเมือง หลานเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน และขอให้ทุกคนมีสติในการใช้ชีวิตในปัจจุบันซึ่งหากเห็นว่าใครทำในลักษณะนี้เขาอาจจะมีเหตุผลส่วนตัว ซึ่งคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำร้ายร่างกายผู้อื่น

 

 

 


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.