ทั้งนี้ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า พวกตนมีอาชีพ ทำประมงในชุมชนตลาดแขก หรือชุมชนบ้านหัวถนน ส่วนเฮโรอีน ทางนายเจริญศักดิ์ หรือบังลี อะสัน ได้สั่งมาจากเอเยนต์ ในจังหวัดปัตตานี โดยทางเอเยนต์ ได้บรรจุในหลอดพร้อมห่อมาในกล่องกระดาษ มาเป็นพัสดุ โดยส่งมากับรถโดยสารประจำทาง จากจังหวัดปัตตานี มาถึงเกาะสมุย จากนั้นพวกตนได้ไปรับ พร้อมกับนำมาทำการแพ็คบรรจุแบ่ง เพื่อส่งจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อย ในชุมชน โดยได้สั่งเฮโรอีนมา หลอดละ 4,000 บาท หากจำหน่ายลูกค้าทั้งหลอดก็ราคาหลอดละ 5,500 บาท ซึ่งต้นทุนในครั้งนี้ พวกตนได้สั่งเฮโรอีนมาจำนวน 331 หลอด มูลค่า 1,324,000 บาท หากจำหน่ายหมดก็จะได้ราคาประมาณ 1,820,500 บาท ส่วนยาไอซ์ และยาบ้า ได้ซื้อต่อมาจากเพื่อนๆในเกาะสมุย นำมาไว้เสพเอง

 

 

 

ด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด  เปิดเผยว่า สำหรับในชุมชนบ้านหัวถนนแห่งนี้ เป็นแหล่งที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดมานาน และเป็นชุมชนใหญ่ ที่แออัด เป็นกลุ่มชาวประมง และทางตำรวจได้รับการร้องเรียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่การที่จะเข้าไปในชุมชนแห่งนี้ได้เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจาก หากคนแปลกหน้า หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปจะมีการส่งสัญญาณ เตือนให้คนในชุมชนรู้ และในชุมชนก็อยู่กันแบบสลับซับซ้อน มีตรอกซอยซอยหลายทาง และสามารถวิ่งลงทะเลออกเรือไป หรือวื่งออกไปทางถนนได้หลายเส้นทาง

 

 

แต่การจับกุมในครั้งนี้ ทางชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับที่ปลอมตัวปะปนซุ่มอยู่ในชุมชน และทราบว่าเฮโรอีนล็อตนี้ เพิ่งส่งมาจากจังหวัดปัตตานี เพิ่งจะมาถึง และผู้ต้องหากำลังนั่งแบ่งบรรจุยาเสพติดอยู่ในห้องพัก จึงได้จู่โจม ปิดเส้นทางและบล็อคบ้านพักไว้ทั้งหมดจึงจับกุมได้แบบยกแก๊งดังกล่าว และแก๊งนี้เป็นแก๊งค้าเฮโรอีนรายใหญ่ในชุมชน มูลค่าของเฮโรอีนล็อตนี้มีมูลค่าถึง 1 ล้านกว่าบาท  ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน และ ยาไอซ์ ย้าบ้า แอมเฟตามีน ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่าย พร้อมส่งตัวให้ ร.ต.อ.บุญนำ ศรีนะรัตน์ รอง.สว.สอบสวน ดำเนินคดตามกฎหมายต่อไป