วันที่ 6 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ. สุนทร ภูตะวัน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดล่ายาเสพติด ภูธรภาค 3 ว่า ได้มีเหตุวิสามัญพ่อค้ายาบ้านเสียชีวิตบนเขา อีด่าง หมู่ที่ 15 ต. ชับสนุ่น อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ  ผบก.ภจว.สระบุรี  พ.ต.อ.  ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรค์ รอง.ผบก.รักษาการ ผกก. มวกเหล็ก สระบุรี   พ.ต.อ. อมร ศรีทุนะโยธิน รอง.ผบภ.ภจว. สระบุรี  พ.ต.ท. ภูวเดช ปาล์จันทร์ รอง.ผกก.ปป.  พ.ต.ท. กุญชร บุญศิริเภสัจ รอง.ผกก.(สอบสวน)  พ.ต.ท ครรชิต จันทเลิศ รอง.ผกก.สส  พ.ต.ท ครรชิต ปัทมแก่นทราย สว.ป   พร้อมด้วย  นาย ประภาศน์  เพชรเมืองปราบ อัยการจังหวัด สระบุรี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัด สระบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลมวกเหล็ก เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างรัตน์ตรัยสระบุรี 

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่บนเขา (อีกด่าง)  เจ้าหน้าที่เดินขึ้นไปบนเขาประมาณ 100 เมตร พบศพนายเสกสรรค์  จันทรา หรือ เสก  อายุ  41 ปี บ้านเลขที่  4 ม. 15 ต. ซับสนุ่น อ. มวกเหล็ก จ. สระบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดล่าปราบปราม ยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3  ร่วมตำรวจ  สภ.มวกเหล็ก สระบุรี วิสามัญ นอนเสียชีวิตอยู่บนเขา สภาพศพ ผู้ตายนอน หงายท้อง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน เสื้อยืดสีขาวแขนสั้น  สภาพศพถูกอาวุธปืน ไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่ชายโคลงขวา 1 นัด ด้านหลัง  4 นัด นอนเสียชีวิต กับพื้นดินบนเขา ข้างศพที่มือขวาผู้ตายกำปืนขนาด .38  ไว้ กระสุนถูกยิงไปแล้ว 5 นัด หรือ 1 นัด ใกล้กันพบหมวกแก็ปสีแดง 1 ใบ กล้องส่องทางไกล  1 อันของผู้ตายตกอยู่  เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

 

ด้านพล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ  ผบก.ภจว.สระบุรี  เปิดเผยในครั้งนี้ว่า ผู้ตาย นายเสกสรรค์ จันทรา หรือบังเสก อายุ  41 ปี นั้นมีประวัติในการเป็นพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ มักจะนำยาบ้าไปส่งขาย ในพื้นที่ จ.นคราชสีมา และกลับมาขายในพื้นที่สระบุรี โดยที่ผ่านมาผู้ตายเคยนำยาบ้าไปขายส่งในพื้นที่ นคราชสีมา รายต่อมวกเหล็ก รวม 3 หมื่น เม็ด และ หลบหนีไปได้จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภูธรภาค 3 ได้ มีการออกหมายจับเอาไว้  โดยเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา ทางตำรวจภูธร ภาค3 ชุดปราบยาเสพติดเคยเข้ามาเพื่อตามจับครั้งหนึ่งแล้ว  แต่ตัวบังเสก ไหวตัวหลบหนีขึ้นเขาไป 

จนกระทั่งมาครั้งนี้ ทางชุดติดตามทราบข่าวกลับมาอยู่บ้าน จึงประสานตำรวจพื้นที่ สภ.มวกเหล็กสระบุรี  ร่วมชุดตำรวจติดตามของภาค 3  ร่วมกันปิดล้อม แต่เจ้าตัวไหวทัน วิ่งหลบหนีขึ้นไปบนเขา อีกด่าง  ขณะ ผู้ตายวิ่งไม่ยอมให้จับได้ใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน ยิงเปิดทางพร้อมต่อสู่ตำรวจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงป้องกันตัวจนถูกคนร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งตำรวจจะได้นำศพส่งตรวจสถาบันโรงพยาบาลองค์รักษ์ต่อไป