สุดสงสารน้องแมนยูซ้อนท้ายพี่ชายไปซื้อกับข้าวเก๋งเบรกกะทันหันรถเสียหลักตัวกระเด็นไปถูกประตูเหล็กฉาก แขนซ้ายขาดกระเด็น โดยวันนี้ (5 ต.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กิริตากร มะระครอง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่รพ.สต.แห่งหนึ่งในจ.เลยได้โพสต์เรื่องราวอันสะเทือนใจและน่าสงสาร ของน้องแมนยูวัย 9 ขวบที่เคราะห์ร้าย โดยบอกว่า “ควรทำอย่างไร หน่วยงานไหนช่วยได้ ค่าใช้จ่าย ณ ปัจจุบัน 105,000 บาท กว่าจะออกควรทำยังไง อุบัติเหตุต้องจ่ายเองทั้งหมด พรบ.ขาด แม่ตาบอดตาหนูหนวก ส่วนตาน้องตาบอดข้างซ้าย ยังมาแขนขาดอีก” โดยหลังจากโพสต์อออกไปปรากฎว่าคนชาวโซเซียลที่เห็นเรื่องราวของน้องแมนยูต่างพากันสงสารแห่โอนเงินช่วยเหลือและบางคนรู้ข่าวจากโซเซียลเดินทางมาร่วมบริจาคช่วยน้องแมนยูถึงรพ. โดยขณะนี้น้องแมนยูรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.ศูนย์อุดรธานี

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปกับพบกับ น.ส.กิริตากร มะระครอง หรือ “น้องแคป” เพื่อนบ้านใจดีที่ยอมเสียสละเวลามาดูแลครอบครัวของน้องถึงรพ.อุดรธานีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันศุกร์ที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองจะเดินทางไปรับลูกในตัวจ.เลยพอมาถึงสามแยกบ้านนาดินดำเห็นอุบัติเหตุพอดี ปรากฏว่าคนที่ประสบอุบัติเหตุเป็นน้องแมนยูที่ตนเองรู้จักดี โดยน้องแมนยูนั่งอยู่พื้นเหมือนจะเป็นลมมีพี่ชายคอยดูแล แต่แขนซ้ายไม่มี มองไปเห็นแขนซ้ายน้องแมนยูตกอยู่ข้าง ๆ ประตูบ้านใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ ด้วยความตกใจรีบโทร 1669 รีบมาช่วยผ่านไปเกือบ 30 นาทีรถกู้ชีพยังมาไม่ถึง ตนเองจึงแจ้งทางรพ.เลยว่าเจอกันระหว่างทางแล้วกัน จึงรีบนำน้องแมนยูขึ้นรถตัวเองมายังรพ.เลย ด้วยที่ตนเองทำงานอยู่รพ.สต.พอรู้เรื่องบ้างจึงนำถุงใส่น้ำแข็งไปใส่แขนซ้ายของน้องแมนยูไปด้วย จากนั้นรพ.เลยก็รีบส่งตัวน้องแมนยูมารักษาต่อที่รพ.ศูนย์อุดรทันที

 

ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุน้องแมนยูขอเงินแม่ 150 บาทเพื่อไปซื้อกับข้าวมาให้แม่ในตลาด โดยซ้อนรถจักรยานยนต์พี่ชายไป แต่พอมาถึงสามแยกบ้านนาดินดำ มีรถเก๋งคันข้างหน้าเบรกกะทันหันจะเลี้ยวซ้าย พี่ชายและน้องแมนยูที่ขับรถจยย.ตามหลังอาจจะมองไม่เห็นเกิดเฉี่ยวรถเก๋งและตัวน้องแมนยูกระเด็นไปถูกเหล็กฉากประตูรั้วบ้านที่อยู่บริเวณสามแยกทำให้แขนซ้ายขาดทันที แต่น้องแมนยูยังได้สติ ขนาดนั้นยังบอกพี่ชายว่าไม่ต้องห่วงไปซื้อกับข้าวให้แม่กินเลยเดี๋ยวไม่ได้กินข้าว