เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



แพทย์เตือน คนใกล้ชิด-ผู้แวะเยี่ยม "โรเบิร์ต สายควัน" ควรพบแพทย์ ย้ำวัณโรคปอดติดง่ายมาก


21 ก.ย. 2563, 10:27



แพทย์เตือน คนใกล้ชิด-ผู้แวะเยี่ยม "โรเบิร์ต สายควัน" ควรพบแพทย์ ย้ำวัณโรคปอดติดง่ายมาก




ที่เพจเฟซบุ๊ก หมอเวร ล่าสุดได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องวัณโรคปอด โดยหยิบยกตัวอย่าง กรณีข่าวการสูญเสียตลกอัจฉริยะ โรเบิร์ต สายควัน ที่ทำให้หลายคนตื่นตัวกับวัณโรคปอดกันมากขึ้น ด้วยเพราะโรคนี้สามารถติดกันได้ง่าย โดยวัณโรคคือเชื้อแบคทีเรีย ชื่อในวงการเรียกสั้น ๆ ว่า TB ติดต่อได้ผ่านระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก เช่นปอด หลอดลม หรือบริเวณหลังโพรงจมูกก็ได้ ซึ่งเชื้อตัวนี้มีขนาดที่เล็กมาก เลยทำให้แพร่กระจายได้โดยวิธี Airborne หรือติดกันได้ผ่านทางหายใจ

คือถ้ามีคนเป็นวัณโรคนั่งอยู่ในห้องเดียวกันกับเรา แล้วเกิดไอจามขึ้นมา คนรอบข้างก็สามารถติดได้หมดเลย เพราะระยะแพร่กระจายมันฟุ้งกว่า Doplet มากอย่างที่บอก ตัวเชื้อมันเอง เอาจริง ๆ ถือว่าค่อนข้างอ่อนแอต่อแสงแดดมาก เจอ UV ไม่เกิน 5 นาทีก็สิ้นซากแล้ว เวลาที่มันบุกรุกเข้ามาในร่างกายเรา ถ้าเราแข็งแรงดี เชื้อวัณโรคส่วนใหญ่เข้ามาแป็ปเดียวก็โดนภูมิคุ้มกันเราสอยเกลี้ยงแล้ว แต่ในมุมกลับกัน ถ้าร่างกายเราอ่อนแอมาก เชื้อวัณโรคมีแต่จะยิ่งเติบโตขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันเราจัดการมันไม่ทันนั่นเอง



ฉะนั้นเรื่องสุขภาพมีผลต่อวัณโรคโดยชัดเจน เราจึงเห็นข่าวคนรอบตัวบ่อยครั้ง ว่าคนที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลนาน ๆ อาจเสี่ยงต่อการติดวัณโรคได้ง่ายเพราะมันแพร่อยู่ในอากาศ ฉะนั้นคนที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิในร่างกายจะกำจัดมันไม่ทันนั่นเอง ดังนั้นเราจึงเห็นผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มักเสียชีวิตด้วยวัณโรคบ่อยครั้ง

แต่ทว่า หลังร่างกายเรารับเชื้อวัณโรคไปแล้ว ใช่ว่าอีกวันสองวันจะแสดงอาการเลย คนที่แข็งแรงหน่อยอาจใช้เวลาลากนานถึง 2 ปี กว่าจะแสดงอาการ แต่คนที่ร่างกายอ่อนแอ อาจใช้เวลาลุกลามในไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

สำหรับคนที่อ่อนแอ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็จะไปเกาะกินระบบทางเดินหายใจ หลัก ๆ ก็มุ่งเน้นไปที่ปอดก่อนเลย เชื้อวัณโรคจะลงหลักปักฐานที่จุดใดจุดหนึ่งของปอดก่อน จากเมื่อมันกินเนื้อปอดจนยุ่ยแล้วก็จะขยายอาณาเขตต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าร่างกายเราจะหายใจเองไม่ไหว และเสียชีวิตลงได้ในที่สุดนั่นเอง
 


วิธีเช็คอาการเบื้องต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็มักมีการไอต่อเนื่อง รวมถึงมีเสมหะไม่หายซักที บางรายหนัก ๆ หน่อยอาจไอเป็นเลือดด้วยก็ได้ ส่วนเรื่องอาการเจ็บปอด หรือแน่นหน้าอกนั้นไม่ได้มีกันทุกเคสทุกราย เพราะบางรายที่วัณโรคไปเกาะอยู่ในกลีบปอดส่วนลึกมาก ๆ กว่าจะแสดงอาการอีกที เชื้อก็ลุกลามไปใหญ่โตแล้ว ดังนั้นไปตรวจที่โรงพยาบาลชัวร์ที่สุด

ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาวัณโรคได้ 4 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน
การทำทูเบอร์คูลิน > เป็นการเทสที่ผิวหนัง ใครที่มีเชื้ออยู่ผิวก็จะบวมแดงให้เห็น ซึ่งในไทยไม่ค่อยวิธีวิธีนี้เท่าไหร่ เพราะคนที่เคยฉีดวัคซีนมาตรวจวิธีนี้ ผลก็ออกมาเป็นบวกได้เหมือนกัน ต้องตรวจด้วยวิธีอื่นต่ออีกทีอยู่ดี
- การตรวจเลือด > ก็ไม่มีอะไรมาก ตรวจหาเชื้อโดยตรงนี่แหละ ซึ่งสามารถตรวจหาโรคได้แม้มีวัคซีนอยู่ในร่างกายก็ตาม
- การเอ็กซเรย์ปอด > อันนี้นิยมทำมากที่สุด เพราะใช้เวลาน้อย และแพทย์สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายโดยวัณโรคได้เลย
- การตรวจเสมหะหาเชื้อวัณโรค > นิยมเพาะเชื้อจากเสมหะเพื่อหาวัณโรคโดยตรง ปกติแล้วหากเอ็กซเรย์แล้วแพทย์พบความเสี่ยง ก็จะมาทำการเทสตัวนี้ต่อนั่นเอง

และด้วยความที่วัณโรคมันแพร่กระจายได้ง่ายอย่างที่บอก ดังนั้นช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา คนรอบตัวโรเบิร์ต สายควัน ที่เคยแวะเวียนไปเยี่ยมเยียน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินโรคกันด้วย เหมือนอย่างตอนเคสน้องน้ำตาล ที่เป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก แพทย์ก็แนะนำให้คนรอบข้างมาตรวจเช่นกัน ไม่รู้จำได้ไหม เพราะในสถิติคนที่ติดเชื้อ 10 คน จะมีเพียง 1-2 คนที่แสดงอาการป่วยเท่านั้น แต่เรื่องตรวจอันนี้น่าห่วง อย่ามองข้าม

ที่เล่าให้เห็นภาพความน่ากลัวมาทั้งหมด จะบอกว่าปัจจุบันวัณโรคหากเจอในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ ไม่ต้องกลัว ฉะนั้นคนอย่างเรา ๆ ที่ไม่รู้ว่าวัน ๆ นึงเราเสี่ยงไปเจอใครมาบ้าง ถ้ามีอาการเข้าข่ายสงสัยก็ควรไปตรวจ หรือถ้ามีคนสนิทเป็นก็ควรไปตรวจกันให้หมดนะ ตรวจสุขภาพประจำปีให้หมอได้แชะภาพฟิล์มเอ็กซเรย์ปอดสักใบก็ยังดี อย่างน้อยตรวจไม่เจอ ก็จะอุ่นใจไปได้อีก 1 ปี หรือแม้ว่าตรวจเจอ หากเจอแต่เนิ่น ๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาหายให้สูงขึ้นไปในตัวนั่นเอง
 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.