ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่4(สุราษฎร์ธานี)รายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย ได้ตรวจพบการพังทลายของเขาหินปูนและดินถล่มบริเวณพื้นที่เกาะหินแตก ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีการถล่มลงในทะเลเป็นบริเวณกว้างประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่เกาะหินแตก

 

 

จากการตรวจสอบสันนิษฐานว่า เกิดจากการเคลื่อนตัวของชั้นหินและชั้นดินที่ถูกกัดเซาะจากสถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนประชาชนและชาวประมงรอบแนวเขตอุทยานให้ระมัดระวังไม่ให้เดินเรือเข้าใกล้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
ซึ่งการดำเนินการของอุทยานแห่งชาติ ในเบื้องต้นได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสังเกตุการณ์เนื่องจากอาจมีการถล่มเพิ่มเติมได้ และจะดำเนินการสำรวจสภาพความเสียหายและขนาดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อรายงานให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนราษฎรและชาวประมงรอบแนวเขตอุทยานฯ ให้ระมัดระวังไม่ให้เดินเรือเข้าใกล้บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
 

 

สำหรับลักษณะธรณีสัณฐาน (Geomorphology) ของเกาะหินแตก รวมถึงลักษณะภูมิประเทศทั้งหมดของหมู่เกาะอ่างทอง ถือเป็นส่วนหนึ่งของภูมิประเทศแบบคาสต์ (Karst topography) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มภูเขาหินปูนที่เกิดรวมกันเป็นหมู่เกาะอยู่กลางทะเลอ่าวไทย ชั้นหินจัดอยู่ในกลุ่มหินปูนยุคเพอร์เมียนตอนกลาง (Middle Permian) มีอายุประมาณ 260 ล้านปี เป็นเขาหินปูนที่มียอดเขาตะปุ่มตะป่ำ เพราะน้ำฝนและน้ำสามารถชะละลายเนื้อหินปูนออกไปได้ง่าย พื้นที่โดยทั่วไปจึงมีแนวโน้มที่จะประกอบไปด้วยหลุม บ่อ ถ้ำ และทางน้ำใต้ดินที่เป็นช่องทางนำพาเอาเนื้อหินปูนแทรกซึมหายไปเมื่อมีฝนตกในปริมาณที่มาก และไหลเข้าไปในรอยแยกรอยแตกเหล่านั้น ทำให้มวลหินสูญเสียเสถียรภาพ ประกอบกับน้ำหนักและแรงโน้มถ่วงของโลก จึงทำให้หินปูนเกิดการแตกเคลื่อนตัวและถล่มลงมา