เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"สาวแม่ลูกอ่อน" หนีปัญหาชีวิต ตัดสินใจปลิดชีพ ดับคาบ้าน


19 ก.ค. 2562, 16:45



"สาวแม่ลูกอ่อน" หนีปัญหาชีวิต ตัดสินใจปลิดชีพ ดับคาบ้าน




เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.ค. 62  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท. เจริญ ช่วยจันทร์ สารวัตรสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตบ้านเลขที่ 68/8 ม.2 ต. คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเป็นหญิง 1 ราย

 

 

ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั่นเดียวอยู่ในสวนยางพารา ที่พื้นหลังบ้านซึ่งเป็นสถานที่ทำครัวพบผู้เสียชีวิตสภาพนอนหงายที่ลำคอมีบาดแผลถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์เลือดบริเวณพื้นแห้งเกอะกรัง ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวสายฝน สังข์โชติ อายุ 32 ปี ใกล้ศพพบมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือด ถูกวางทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้น นายประทิ่น สังข์โชติ อายุ 54 ปี บิดาของผูเสียชีวิตบอกว่า บุตรสาวได้แต่งงานมีครอบครัวและไปอาศัยอยู่กับ นายสัมพันธ์ ทองขนะ อายุ 32 ปี สามีที่บ้านหนองเปล ตำบลพลายวาส โดยมีบุตรด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ และมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ ลูกเขยได้ประสบอุบัติตกนั่งร้านทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถทำงานได้ และบุตรสาว ซึ่งพึ่งคลอดลูกคนเล็กได้เพียง 20 วัน ได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกัน เนื่องจากบ้านที่อยู่กับสามีเป็นบ้านยกสูงไม่สะดวกสำหรับคนเพิ่งคลอด โดยเมื่อสองสามวันผ่านมาสังเกตเห็นว่าลูกสาวมีอาการซึมเศร้าและบ่นว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แต่ตนและภรรยาก็ไม่ได้เอะใจ

จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้า ตนได้ไปทำงานในสวน ส่วนภรรยาได้ไปร่วมงานกีฬาของหมู่บ้าน ปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง กับลูกที่เพิ่งคลอด จนกระทั่งเที่ยงวันตนได้กลับเข้าบ้านมาเพื่อกินข้าวเที่ยง แต่เมื่อมาถึงได้ยินเสียงร้องดังจ้าของหลาน จึงเข้าไปดูพบว่าหลานถูกปล่อยทิ้งให้นอนอยู่ในมุ้งและที่ส่งเสียงร้องคาดว่าหิวนม แต่ไม่เห็นนางสาวน้ำฝน ตนจึงได้เดินตามหาจนกระทั่งไปพบศพของลูกสาวนอนอยู่ที่พื้น โดยที่ลำคอมีมีดปอกผลไม้ปักอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ  

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายของนางสาวน้ำฝนเอง และมีสาเหตุมาจากความเครียดเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในครัวเรือน จึงส่งศพไปตรวจชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละอียดก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.