เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ร่างพลทหาร กลับถึงบ้านเกิด ญาติเศร้ารับศพ พ่อไม่ติดใจการเสียชีวิต


15 ก.ย. 2563, 15:41



ร่างพลทหาร กลับถึงบ้านเกิด ญาติเศร้ารับศพ พ่อไม่ติดใจการเสียชีวิต




วันนี้ (15 ก.ย.63) ผู้สื่อข่าว ONB news ประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nathasa Rochai ได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.63 ระบุว่า “ข่าวร้ายของวันนี้คือการสูญเสียญาติผู้น้องจากไปแบบไม่มีวันกลับ หลับให้สบายนะน้องนิ๊กกี้ น้องนิ๊กกี้เพิ่งเข้ากรม เมื่อวันที่1/09/2020 แล้วเช้าวันนี้14/09/2020 มีนายพลท่านนึงมาแจ้งข่าวที่ร้านที่พี่ชายและพ่อของน้องทำงานอยู่ว่าน้องเสียแล้วเมื่อคืนตอนประมาณ1.45น.สาเหตุจากเส้นเลือดตีบ เลือดไปหล่อเลี้ยงสมองไม่ทัน ทางครอบครัวได้รับเพียงคำขอโทษกับร่างที่ไร้ลมหายใจของน้อง พร้อมกับเงินค่าทำศพเบื้องต้น 20000บาท มันคุ้มแล้วใช่ไหมกับสิ่งที่ครอบครัวเราเสียไป ทางครอบครัวเราสงสัย ว่าสาเหตุจริงๆที่น้องเสียชีวิตคืออะไร น้องเดินเข้าไปในค่ายแต่ตอนออกมาหามใส่โลง นาย เสรี บุตรวงค์ RIPนิ๊กกี้W”

 

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีภาพ พลทหาร เสรี บุตรวงค์ ทหารกองประจำการ รุ่นปี 2563 ผลัดที่ 1 เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2563 หลังจากพึ่งถูกเรียกตามหมายนัดรับราชการทหาร เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา

 

ทำให้โลกโซเชียลต่างพากันแชร์โพสต์ดังกล่าวจำนวนมากเกือบ 2,000 ครั้ง ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านเกิดของพลทหารดังกล่าว เลขที่ 140 ม.3 บ.มะโน ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หลังทราบข้อมูลว่าทหารได้นำส่งศพพลทหารดังกล่าวมาถึงบ้านเกิดตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลญาติของผู้เสียชีวิต เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 06.30 น. ทราบว่ากำลังเดินทางจาก กทม.และขอเข้าไปทำข่าวความคืบหน้าที่งานศพ ซึ่งญาติคนดังกล่าวก็ยินดีไม่ได้มีทีท่าว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่จัดงานศพแต่อย่างใด ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น.ผู้สื่อเดินทางไปถึง หมู่บ้านมะโน ก่อนจะสอบถามชาวบ้านทราบว่าบ้านที่จัดงานศพอยู่จุดใด ผู้สื่อข่าวจะไปจอดรถสังเกตการณ์บริเวณด้านหน้างานศพพบ มีเจ้าหน้าที่ทหารหลายนาย ยืนอยู่บริเวณงานและหน้าบ้าน ขณะเดี่ยวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามญาติของผู้เสียชีวิตคนดังกล่าว ระบุว่า ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์และรอปรึกษาญาติๆอีกครั้ง แม้ผู้สื่อข่าวจะโทรศัพท์ติดตามความคืบหน้าเพิ่มเติม แต่ก็ไม่รับสายและตัดสายทิ้งไป

 


 

 



จากข้อมูล ที่มีการแชร์ของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ระบุว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แสดงความเสียใจ เหตุพลทหารเสรี เสียชีวิต ระหว่างเป็นทหารกองประจำการ สั่งเร่งสอบหาสาเหตุ ให้ความเป็นธรรมครอบครัวผู้สูญเสีย เบื้องต้นผลตรวจโดยแพทย์ สันนิษฐาน ไหลตาย ไม่ได้เกิดจากถูกประทุษร้าย พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงถึงกรณี พลทหาร เสรี บุตรวงค์ ทหารกองประจำการ รุ่นปี 2563 ผลัดที่ 1 เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2563 ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวแล้ว และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อให้ความกระจ่างและเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเน้นย้ำให้ต้นสังกัดดูแล จัดงานศพอย่างดีที่สุด

 

ซึ่งจากการสอบสวนข้อเท็จจริงและจากผลการสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตโดยแพทย์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2563 เวลาประมาณ 12.00 นาฬิกา สันนิษฐานว่า สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ (ลักษณะไหลตาย โดยไม่ได้เกิดจากการถูกประทุษร้าย) ทั้งนี้ นายสมทรง บุตรวงค์ (บิดา พลทหาร เสรีฯ) ได้รับทราบสาเหตุการเสียชีวิตจากแพทย์และได้ร่วมขอดูศพแล้ว ซึ่งไม่ติดใจและมีความเข้าใจดีถึงสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว

 

โดยในเบื้องต้น กรมการสื่อสารทหารซึ่งเป็นหน่วยต้นสังกัด ได้จัดผู้แทนหน่วย ได้แก่ ผู้บังคับกองพัน กรมการสื่อสารทหาร และผู้แทนหน่วยฝึกฯ จำนวน 7 นาย ร่วมเดินทางนำศพกลับภูมิลำเนา และจะอยู่ร่วมในงานสวดพระอภิธรรมศพทุกวัน จนกว่าจะถึงวันฌาปนกิจศพ

ทั้งนี้ หน่วยต้นสังกัดได้ดำเนินการออกค่าใช้จ่ายในการนำศพ พลทหาร เสรีฯ กลับภูมิลำเนา รวมทั้งออกค่าใช้จ่ายในพิธีสวดพระอภิธรรมทุกคืน ตลอดจนออกค่าใช้จ่ายในงานฌาปนกิจศพ และเก็บอัฐิ กับทั้งยินดีมอบทุนทรัพย์ให้แก่บิดา พลทหาร เสรีฯ เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ของครอบครัวต่อไป ตามที่เป็นข่าว

 

นอกจากนี้เฟสบุ๊คดังกล่าว ยังได้โพสต์ภาพข้อความทางแช็ทต่างๆ โดยพบข้อความหนึ่งที่มีคนในสนทนา หลังจากศพเดินทางมาถึงบ้านเกิดว่า มีรอยช้ำหรืออะไรไหมพี่ แช็ทอีกฝ่ายซึ่งเป็นญาติผู้สียชีวิต ตอบว่า “ไม่ มีแต่รอยผ่าที่หัว” ซึ่งตรงกับข้อมูล ที่โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยข้อมูล จากการสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตโดยแพทย์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2563 เวลาประมาณ 12.00 น. ที่สันนิษฐานว่า สาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ (ลักษณะไหลตาย โดยไม่ได้เกิดจากการถูกประทุษร้าย) ทั้งนี้ นายสมทรง บุตรวงค์ (บิดา พลทหาร เสรีฯ) ได้รับทราบสาเหตุการเสียชีวิตจากแพทย์และได้ร่วมขอดูศพแล้ว ซึ่งไม่ติดใจและมีความเข้าใจดีถึงสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าว

 



ล่าสุดวันเดียวกันนี้ (15 ก.ย.63) เวลา 12.30 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบบิดาของพลทหารที่เสียชีวิตที่บ้านจัดงานศพอีกครั้ง คือนายสมทรง บุตรวงค์ อายุ 64 ปี บิดาพลทหารที่เสียชีวิต จึงได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บุตรชายที่เสียชีวิต เป็นลูกคนที่ 3 ตนมีลูกชายทั้งหมด 3 คน ภรรยาเสียชีวิตไปนานแล้ว ปัจจุบันตนทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ กทม. ลูกชายได้จับได้ใบแดงเป็นทหารเกณฑ์ผลัดแรก เดินทางไปเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา สังกัดทหารสื่อสารกรุงเทพฯ ส่วนสาเหตุที่ตนรู้ว่าบุตรชายเสียชีวิต เนื่องจากมีนายทหารเดินทางไปบอกที่ร้าน แต่ยังไม่บอกสาเหตุ เพราะอยู่ระหว่างแพทย์ผ่าตรวจชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอยู่ และพาตนเองไปฟังผลตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกแต่ว่าเสียชีวิตตีสองครึ่งของวานนี้ (14 ก.ย.63) หลังทราบว่าลูกเสียชีวิต ตนเองพูดไม่ออก อัดดอั้นไปหมด ร้องไห้ยังไม่มีน้ำตา อยากจะร้องไห้แต่น้ำตาไม่มี เป็นลูกคนเล็กด้วย ตนเสียใจอย่างมาก ลูกชายเป็นคนนิสัยดี สุขภาพแข็งแรง ส่วนสาเหตุที่ตนเองไม่เชื่อว่าลูกถูกทำให้ตายนั้น ก็ไปดูศพที่โรงพยาบาล ถอดเสื้อผ้าดูตามร่างกาย ก็ไม่พบร่องรอบฟกช้ำแต่อย่างใด สภาพทั่วไปปกติ หลังจากนั้นก็มีใบชันสูตรออกมา แพทย์ชี้แจงว่า เกิดจากระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว เขาเป็นคนแข็งแรง และเป็นคนทำงาน ตนไม่ติดใจของการเสียชีวิต เพราะไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย ตรงกับแพทย์ยืนยันว่าเกิดจากหัวใจล้มเลว ส่วนต้นสังกัดก็มาดูแลค่าใช้จ่ายในงานทั้งหมด จนเสร็จงานศพ และเงินเยียวยาจำนวนหนึ่ง พอได้ใช้ดำเนินชีวิตต่อไป หลังจากนี้ก็คงต้องดำเนินชีวิตตามสภาพต่อไป และกลับไปทำงานเหมือนเดิม ซึ่งตนก็รู้สึกพอใจในระดับหนึ่งที่ อย่างน้อยเขาก็ได้เสียชีวิตในหน้าที่ระหว่างเป็นพลทหาร แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ มันเร็วเกินไป ตนขอทำใจก่อน และขอย้อนภาพกลับไปกลับมา ทามไลน์ของลูกชายเป็นยังไง ร่างกายของลูกชายเป็นยังไงบ้าง ส่วนหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล นั้นตนพอใจ พ่อผู้เสียชีวิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายในงานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเดินทางมาช่วยงานศพ ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด โดยมี พ.อ.ทศพล จุลกรังคะ ผบ.พัน.ส.บก.ทพ.สส.ทหาร,พ.อ.อ.ทิชากร พึ่งพันธ์ ผู้ช่วยครูฝึกพร้อมกำลังพล 7 นาย ในสังกัดกองพันทหารสื่อสาร กองบัญชาการกองทัพไทย เดินทางมาดูแลอำนวยความสะดวกภายในงาน สำหรับพิธีฌาปณกิจศพพลทหาร จะมีขึ้นวันอาทิตย์ ที่ 20 กันยายน 2563 ที่วัดมะโนวราราม บ.มะโน ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ส่วนการเยียวยาต่างๆจากต้นสังกัด อยู่ระหว่างพิจารณาตามระเบียบและขั้นตอนของกองบัญชาการกองทัพไทยต่อไป







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.