เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 กันยายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการมหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการยุติธรรม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานสุโขทัย ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย

 

จากนั้นเวลา 13.35 น .นายกฯ และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุโขทัย โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย ว่า การที่นายกฯ มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังประชาชนในครั้งนี้ อยากจะขอร้องนายกฯว่า พื้นที่ จ.สุโขทัย เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากแล้งซ้ำซาก เมื่อถึงฤดูฝนจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.พะเยา และ จ.แพร่ ทำให้คันดินและผนังถนนพัง ซึ่งเกิดความเสียหาย โดยได้สำรวจความต้องการจากชาวบ้านและท้องถิ่น ซึ่งต้องการโครงการก่อสร้างเขื่อนเรียงหินเพื่อป้องกันตลิ่ง โดยประมาณการงบประมาณ 470 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าจะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง จะต้องมองภาพรวมอย่างยั่งยืน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา ซึ่งประชาขนจะต้องให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหา ซึ่งปัญหาที่เร่งด่วนคือการระบายน้ำ ที่จะต้องมีทางน้ำไหล จะต้องขอความร่วมมือประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ที่น้ำไหลผ่าน ก็ขอให้น้ำผ่านไประยะหนึ่งก่อน สำหรับพื้นที่กักเก็บไม่ว่าขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณ มันมีปัจจัยหลายๆ เรื่องกว่าจะสำเร็จได้ แต่หากไม่ทำ ปัญหาจะเกิดซ้ำซาก ทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง จึงขอให้ไปสำรวจสถานที่กักเก็บน้ำว่ามีกี่แห่งมีเท่าไหร่ และที่มีไม่สามารถเก็บน้ำได้เพราะอะไร ส่วนการที่กักเก็บน้ำขนาดใหญ่ถ้าทำสำเร็จจะแก้ไขได้อย่างยั่วยืน โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปทบทวนความเสียหายให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง เพื่อไม่ให้มีการร้องเรียนและร้องขอแบบเดิมอีก