จากกรณีที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือด่วน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านเมียนมา ให้คุมเข้มการลักลอบเดินทางเข้ามาของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมายทุกช่องทาง ภายหลังจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาว่า เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 นั้น

ล่าสุดวันนี้ ( 28 ส.ค.63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ กจ 0017.2/ว 14937 เรื่อง เน้นย้ำการดำเนินการป้องกันบุคคลต่างด้าวจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใจความว่า ตามที่จังหวัดแจ้งให้ส่วนราชการและอำเภอบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเน้นย้ำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติให้ระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย นั้น

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาว่า เกิดการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 จำนวน 580 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอก ทั้งนี้รัฐยะไข่กำลังเป็นพื้นที่วิกฤติที่สุด จำนวนผู้ป่วยสะสมในพื้นที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลสั่งล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จังหวัดจึงขอให้ส่วนราชการและอำเภอดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้

1. การเดินทางเข้ามาในประเทศ ผ่านช่องทางการเข้าออก ด่าน จุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเคร่งครัด

2. การบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนเพื่อเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง ป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ซึ่งหากพบกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

ทั้งนี้สำหรับอำเภอขอให้เน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้นโดยเคร่งครัดต่อไป