เป็นอีกอดีตคู่รักดาราที่เพิ่งประกาศยุติความสัมพันธ์ไปเร็วๆ ระหว่าง มารี เบิร์นเนอร์ นางเอกสาวกับ กัน นภัทร นักร้องหนุ่ม หลังจากที่มีข่าวรักเลิกและพยายามปรับมาโดยตลอด สุดท้ายทาง มารี ได้เป็นคนประกาศสถานะเลิกผ่านสื่อ ในขณะที่ กัน ก็ไม่ขอเปิดเผยเหตุผล บอกเป็นเรื่องของสองคน และอยากให้ทุกคนรักรู้ว่าเต็มที่กับความรักครั้งนี้แล้ว ยอมรับว่ารู้สึกผิดเองที่สู้ไม่พอ และไม่มีโอกาสกลับมารีเทิร์น ล่าสุด (21 ส.ค.63) ทางด้าน มารี เบิร์นเนอร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการประกาศยุติความสัมพันธ์กับ กัน โดยเผยว่า  

ในมุมของเรา ความรู้สึกหลังจากที่กันออกมาให้สัมภาษณ์
มารี : ถ้าฝั่งของเราก็เป็นความสัมพันธ์ที่เราก็เต็มที่ แล้วเราก็ทำเต็มที่ที่สุดแล้ว 

หลังจากฟังที่สัมภาษณ์รู้สึกอย่างไรบ้าง
มารี : ก็โอเค ตามนั้น

คำที่บอกว่าผิดที่เขาสู้ไม่พอ สู้เรื่องอะไร?
มารี : ความรักมันก็ต้องสู้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ว่าปัจจัยรอบตัวของแต่ละคน เงื่อนไขชีวิตของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แล้วคือมันคงไม่สำคัญหรอกว่าเหตุผลคืออะไร แต่ถ้าคนสองคน มีคนใดคนหนึ่งไปต่อไม่ไหว ไม่พร้อมที่จะสู้ที่สุด มันก็คงเป็นไปไม่ได้ 

เห็นความพยายามของเขาในการสู้ ?
มารี :  มันก็มี เห็น จริงๆ ถ้าไม่ได้รักกันมากก็คงไม่เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่เชื่อว่ามันเป็นชีวิตแหละ มีสมหวังมีผิดหวัง

ในเมื่อคำว่ารักกันมากแล้วอะไรคือจุดที่มันไปต่อไม่ได้?
มารี : หนูว่านอกเหนือจากความรักแล้วมันก็มีความรู้สึกอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

ที่ผ่านมาเคยทบทวนเรื่องนี้ ?
มารี : ก็คุย มันก็ยากเหมือนกันค่ะ ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้

ปัญหาการไม่เข้าใจกัน?
มารี : คือถ้าในมุมของหนูคือเข้าใจกันนะ แต่ว่ามันก็มีเหตุผลที่ไม่สามารถยอมกันได้ในบางเรื่อง

เราจับมือกันแล้วใช่ไหมว่าจะสู้ไปด้วยกันหรือจะไม่สู้ต่อไป
มารี : มันก็สู้มาตั้งแต่แรก เต็มที่มาตั้งแต่แรก ถึงวันหนึ่งมันก็ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่สู้กว่า หรือสามารถสู้กว่าได้ด้วยสถานการณ์ของตัวเอง

ซึ่งมารีสู้กว่า?
มารี : มันก็ .. คือเขาก็เต็มที่ที่สุดของเขา 

เสียใจมากไหม?
มารี : ก็อืม ดีขึ้นแล้วจริงๆ 

วันนั้นใครเป็นคนตัดสินใจว่าจบกัน?
มารี : ไม่สำคัญหรอกจริงๆ เราก็ยอมรับว่ามันเป็นไปไม่ได้ 

ตอนนี้เรามูฟออนแล้วใช่ไหม
มารี : ก็เท่าที่ทำได้ 

มันเกี่ยวกับเรื่องที่ยื้อ เรื่องที่ไม่จบสักที่ ตามข่าวที่ออกเกี่ยวข้องไหม?
มารี : สำหรับหนูไม่เกี่ยว รักคือรัก สู้คือสู้ ตั้งแต่วันแรกที่จนกว่าสุดท้ายหนูก็รู้ว่าเต็มที่ที่สุดแล้ว 

เรื่องบุคคลที่สาม คนรอบข้าง คนในครอบครัวเกี่ยวข้องไหม?
มารี : คือแบบถ้ามือที่สามเรื่องผู้หญิงคนอื่นไม่มีแน่นอน เราก็เชื่อว่าระหว่างที่คบเราเขาทำตัวดีมาก แต่เรื่องนี้ ไม่มีใครผิดหรอก แต่คนเราโตมาไม่เหมือนกัน ความคิดมุมมองความรับผิดชอบที่ต้องดูแลก็ไม่เหมือนกัน

พื้นฐานครอบครัวต่างกันเลยทำให้ไปต่อไม่ได้ 
มารี : อย่างที่บอกว่ามันไม่สำคัญ แต่สุดท้ายถ้าเราสลับกัน เราต่างคนต่างก็เป็นแบบที่เราเป็นอยู่ ชีวิตมุมมอง หน้าที่ ความต้องการของแต่ละคน เป้าหมายในชีวิตตอนนี้มันอาจจะไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้เอาชนะทุกอย่างไม่ได้ 

คุยกันยากไหมกว่าจะตัดสินใจ
มารี : ก็ไม่ยากค่ะ กะทันหันอยู่

มูฟออนไปไกลได้หรือยัง?
มารี : ก็บางวัน กำลังจะดี หาไรทำไปเรื่อยๆ ตั้งใจทำงาน หากิจกรรมทำ

ถือเป็นอีกบทเรียนของเรา?
มารี : เราก็มองว่ามันไม่ใช่บทเรียนที่แย่ แต่เรารู้สึกว่าส่วนที่เราทุ่มเทมันอาจมากเกิน เร็วเกิน อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการรักของตนเองในอนาคต

ที่ผ่านมามารีไปหาครอบครัวกันที่บ้านบ่อยมาก ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างเรากับความสัมพันธ์ครอบครัวเขา?
มารี : ก็ไม่ได้เจอแล้ว

ไม่ได้คุยกันแล้วกับกัน
มารี : ไม่ได้คุยแล้ว

ไม่สามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้?
มารี : สำหรับหนูอนาคตอาจจะได้ แต่ตอนนี้มันก็ยัง 

มันจะทำให้การทำงานมันยากขึ้นไหม อยู่ช่องเดียวกัน
มารี : เขาก็อยู่ในคนละโซน คิดว่าไม่มีปัญหา

ความรักครั้งนี้เจ็บที่สุดในชีวิตไหม 
มารี : วัดกันไม่ได้หรอก