เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6  สิงหาคม 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)​ พล.ต.ท.ภัคพงศ์  พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวก่อนเดินทางเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้สรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงสถานที่เกิดเหตุ อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร แล้วพบว่า  เป็นบ่อนการพนันจริง แต่จะเปิดลักลอบเล่นการพนันนานเท่าไรยังไม่แน่ชัด
 
พล.ต.ท.ภัคพงศ์   กล่าวว่า ขณะนี้มีการตั้งประเด็นในการสอบสวนรวม 3 ประเด็น คือ (1.) ประเด็นการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ, (2.) การเปิดบ่อนการพนันในพื้นที่  และ (3.) คดีฆาตรกรรม โดยการสอบสวนจะแบ่งเป็น 3 สำนวน ซึ่งในแต่ละสำนวน อาจจะมีผู้ต้องหารายเดียวกันก็ได้
 
จากการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บนที่เกิดเหตุ  ยืนยันว่า  อาคารดังกล่าวเปิดเป็นบ่อนการพนันมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนจะมีตำรวจเกี่ยวข้องกับการเปิดบ่อน รวมถึงใครเป็นเจ้าของนั้น ขอเวลาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทำการตรวจสอบอีกสักระยะ  เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็น “เฮียตี้” ว่าเจ้าเป็นของหรือไม่ แต่ขอเวลาในการสืบสวนอีกสักระยะ

พล.ต.ท.ภัคพงศ์  กล่าวว่า  อาคารแห่งนี้ตำรวจทราบชื่อ ผู้เช่ารายใหม่แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า  อาคารดังกล่าว “เฮียตี้”  เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่  สำหรับผู้ก่อเหตุยิงกับตำรวจเสียชีวิต  ยืนยันว่า ทั้งคู่มีปัญหาในเรื่องของหนีสิ้นแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นหนี้ใคร หรือมีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่  
 
“เรื่องที่มีกลุ่มบุคคลเข้ามารื้อกล้องวงจรปิด และช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเล่นพนันออกจากสถานที่หลังเกิดเหตุนั้น ได้สั่งการให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีฐานซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน โดยขณะนี้พอสืบทราบตัวบุคคลกลุ่มนี้ได้แล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ  ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตที่ยังหลบหนีไปนั้น จากการสืบสวนทราบว่า  อาจจะมีมากกว่า 1 คน ซึ่งพอจะระบุตัวได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ  ส่วนบุคคลที่ติดต่อขอเข้ามอบตัวนั้นจะใช่คนเดียวกันหรือไม่ให้รอดู”  
 
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิต  3 ราย ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นฝีมือของนายถาวร สีสด (ผู้ก่อเหตุ) ทั้งหมดหรือไม่  เพราะต้องรอผลชันสูจน์ศพ รวมถึงการพิสูจน์วิถีกระสุน ขอยืนยันว่า  กรณีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. เมื่อได้รับแจ้งได้เดินไปถึงที่เกิดเหตุในเวลา 22.45 น. ส่วนจะมีการประวิงเวลา  แจ้งเหตุช้าเพื่อทำลายหลักฐานหรือไม่นั้นก็น่าเชื่อได้ว่า  เป็นไปได้เพราะมีร่องรอยทำลายพยานหลักฐาน  แต่กรณีนี้ก็อยู่ในสำนวนที่จะต้องทำการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด เพราะยังไม่เจอเซิฟเวอร์ และหากใครมีข้อมูลหลักฐานสามารถส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที