เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศาลอนุมัติหมายจับ "ครูมวยค่ายดัง" ก่อเหตุยิงเซียนไก่ชนชื่อดังเสียชีวิตคาโต๊ะสนุ๊ก


31 ก.ค. 2563, 15:51



ศาลอนุมัติหมายจับ "ครูมวยค่ายดัง" ก่อเหตุยิงเซียนไก่ชนชื่อดังเสียชีวิตคาโต๊ะสนุ๊ก




จากกรณีของนายสว่าง เจริญมาก อายุ 43 ปี เซียนไก่ชนชื่อดังในพื้นที่อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ถูกกระหน่ำยิง 6 นัด ภายในโต๊ะสนุ๊ก เลขที่ 7/2 หมู่ 10 ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลมะการักษ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 นาฬิกา วันที่ 30 กรกฎาคม 2563

 

วันที่ 31 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณโต๊ะสนุ๊กที่เกิดเหตุ พบบรรดาญาติๆ และภรรยาของผู้เสียชีวิต กำลังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ พร้อมพาไปดูร่องรอยภายในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโต๊ะสนุ๊กส่วนตัวของผู้เสียชีวิต พบร่องรอยกระสุนปืนตามฝาผนัง และรอยเลือดกระเด็นตามพรมหลายจุด โดยนางพัชรี รุ่งเรือง อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตกำลังแทงสนุ๊กอยู่กับเพื่อนสนิท จำนวนเกือบ 10 คน ส่วนตนกำลังขับรถเพื่อพาลูกออกไปหาหมอ โดยในระหว่างที่กำลังจะขับรถออกจากบ้านได้เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้านและถามหาสามีของตน ต้นจึงบอกว่าสามีของตนกำลังแทงสนุ๊กกับกลุ่มเพื่อนอยู่ภายในโต๊ะสนุ๊ก

 

จากนั้นตนขับรถออกไปได้ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงปืนหลายนัดดังออกมาจากโต๊ะสนุ๊ก เมื่อกลับมาดูก็พบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งที่ผ่านมาสามีของตนกับผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน หากจะมีปัญหาก็มีเพียงปัญหาระหว่างตนกับภรรยาของผู้ก่อเหตุ โดยชนวนเหตุเริ่มต้นมาจากเรื่องของการที่ตนไปสั่งซื้อพรมจากร้านค้าออนไลน์ โดยระบุชื่อผู้รับสินค้าเป็นสามีของตนชื่อที่อยู่ถูกต้องทั้งหมด แต่เบอร์โทรศัพท์ของผู้รับสินค้ากลับกลายเป็นเบอร์ของภรรยาผู้ก่อเหตุ ทำให้ภรรยาของผู้ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจและโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าตนและขอให้แก้ไขเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง

 

ซึ่งตนก็รับปากจะแก้ไขและโทรไปแจ้งที่ บริษัทส่งสินค้าให้แก้ไขเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลาที่บริษัทมาส่งสินค้าในวันที่ 30 กรกฎาคม ทางบริษัทขนส่งสินค้ายังคงโทรไปเบอร์เดิมซึ่งเป็นเบอร์ของภรรยาผู้ก่อเหตุ ทำให้ภรรยาของผู้ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจและมีปากเสียงกับตนอีกครั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

 

ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ เลขที่ 26/2 หมู่ 10 ตำบลดอนชะเอม อำเภอท่ามะกา ซึ่งอยู่ห่างจากโต๊ะสนุ๊กที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้พบกับนางกุ้ง เชาว์ไว อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นแม่ยาย ของนายนพสิทธิ์ จีนใจเย็น อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายนพสิทธิ์มีอาชีพเป็นครูมวย ของค่ายมวยชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรีและได้แต่งงานกับลูกสาวของตน โดยตามปกตินายนพสิทธิ์ หากไม่ได้สอนมวยก็จะมาช่วยตนขายของอยู่ที่ร้าน ในวันเกิดเหตุ ต้นทราบจากนายนพสิทธิ์ว่าลูกสาวของตนซึ่งเดินทางไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้มีปากเสียงกับภรรยาของนายสว่างซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต จากกรณี ที่ภรรยาของนายสว่างได้สั่งสินค้าออนไลน์ในชื่อของนายสว่างแต่กลับระบุหมายเลขโทรศัพท์ผู้รับสินค้าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของลูกสาวตน ซึ่งลูกสาวตนได้ร้องขอให้แก้ไขให้ถูกต้องมาหลายครั้ง แต่ก็ยังคงได้รับโทรศัพท์จากบริษัทส่งสินค้าอยู่เช่นเดิม ทำให้เกิดการโต้เถียงจนมีปากเสียงกันค่อนข้างรุนแรง กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 18:00 นาฬิกา วันที่ 30 กรกฎาคม ได้มีรถยนต์สีขาวซึ่งตนจำได้ว่าเป็นรถของบ้านนายสว่าง ขับผ่านหน้าบ้านและกดบีบแตรลากเสียงยาวคล้ายจะหาเรื่อง ทำให้นายนพสิทธิ์เกิดความไม่พอใจและเตรียมที่จะไปเคลียร์กับนายสว่าง แต่ตนได้ห้ามไว้ เพราะไม่อยากให้ลูกเขยไปมีเรื่อง ก่อนที่ตนจะโทรศัพท์ไปเคลียร์กับนายสว่าง

 

โดยนายสว่างยอมรับว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถของบ้านนายสว่างจริง แต่คนขับเป็นภรรยาของนายสว่างที่นำรถออกไปทำธุระ ต้นถึงได้พูดคุยกับนายสว่างเพื่อขอให้ช่วยปรามภรรยาไม่ให้มาก่อเรื่องอีก จากนั้นช่วงหัวค่ำตนได้ออกจากบ้านไปทำธุระก่อนจะมาทราบว่านายนพสิทธิ์ ลูกเขยของตนได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไปก็นำยิงนายสว่างจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยหลังก่อเหตุ ตนก็ยังไม่ได้พบกับนายนพสิทธิ์อีกเลย แต่ตนอยากจะขอวิงวอนไปยังนายนพสิทธิ์ให้รีบเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องของคดีความก็ขอให้มาต่อสู้ไปตามกฎหมายดีกว่าที่จะต้องเป็นคนหนีคดีหลบๆซ่อนๆอยู่แบบนี้

 

ขณะที่ ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พันตำรวจเอกณัฐวุฒิ กันตะยศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่ามะกา กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ ดำเนินการขอศาลอนุมัติหมายจับนายนพสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งศาลก็ได้มีการอนุมัติหมายจับออกมาเรียบร้อย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างการออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยคาดว่านายนพสิทธิ์น่าจะเดินทาง กลับไปยังบ้านเกิดในพื้นที่อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานจะสามารถได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

 

 

 

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.