จากกรณีมีเพจออกมาแฉ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ไม่แบ่งรายได้จากยูทูบให้ เก้า เกริกพล เพชรรัตน์ นักร้องหนุ่มวัย 17 ปี ที่ร่วมฟีเจอริ่งเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว ซึ่งเจนนี่ บอกว่าให้ไม่ได้เพราะไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก 

 ล่าสุด  เก้า เกริกพล ออกมาไลฟ์เฟซบุ๊กระบายความในใจ ความยาวประมาณ 45 นาที ชี้แจงทุกประเด็น โดยยืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ให้พาไปสาบานวัดไหนก็ได้ และเล่าตั้งแต่เริ่มต้นว่า เจนนี่ เคยมาขอให้ไปร่วมฟีเจอริ่งด้วย 2 ครั้ง แต่ตนปฏิเสธ หลังจากนั้นไปเจอกันที่รายการหนึ่ง ทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น และตัดสินใจไปร่วมร้องฟีเจอริ่งด้วย

          ในวันที่ไปอัดเสียง เจนนี่ โอนเงินมาให้ 10,000 บาท เขาไม่ได้บอกว่าเป็นค่าตัว แต่โทร. มาบอกว่าเป็นค่าขนมและค่าเดินทาง ซึ่งตนก็ดีใจมาก หลังจากนั้นเราไปเจอกันที่ จ.พัทลุง มีเจนนี่ ตน และแม่ของตน เขาพูดว่าพี่จะไม่เอาเปรียบน้อง พี่จะดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่าง พี่เคยโดนเอาเปรียบมาก่อนพี่รู้ว่ามันเป็นยังไง แม่จึงพูดไปว่าที่โอนมาให้ 10,000 บาท มันมากไปไหม เขาบอกไม่เป็นไรให้น้องกินขนม แล้ววันไปถ่ายเอ็มวีค่อยว่ากันอีกที

          กระทั่งวันถ่ายเอ็มวี เขาสั่งให้แต่งตัวตามที่กำหนด ซึ่งตนไปซื้อเสื้อผ้าทั้งหมด 6,000 บาท เป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนม จ่ายค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเดินทางเองทั้งหมด จนต้องควักเงินตัวเองอีก 2,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 12,000 บาท   นอกจากนี้ เจนนี่ ยังพูดเรื่องส่วนแบ่งกับแม่ของตน หลังจากอัดเสียงร้องเสร็จ และรอไปถ่ายเอ็มวี ว่าจะแบ่งค่ายูทูบให้ตน 70/30 ซึ่งตนก็ให้ใจเขาไป โดยไม่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากเพลงลงยูทูบก็ติดชาร์ตอันดับ 1 ยอดวิวหลายล้าน ตนจึงโทร. ไปแสดงความยินดีกับพี่เขา พร้อมบอกว่าเพลงน่าจะถึง 100 ล้านวิวแน่นอน เขาบอกตนว่าเพลงนี้ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของลิลลี่ ซึ่งตนก็โอเค เพราะมันเป็นเพลงของเขา

          ต่อมาตนโทร. ไปขอร้องเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอ เป็นเวอร์ชั่นชาย เอาไปลงในยูทูบของตน แต่เขาไม่ให้ ตนก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่คำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ทำไมเขากลับคำ ตอนนั้นเขายังไม่ทำค่ายเพลง เราเลยไม่ได้ทำสัญญา มีแต่สัญญาใจ เขาว่าตนว่าทำไมเพิ่งมาพูดตอนนี้ ทั้งที่จริงตนส่งหนังสือไปยื่นที่บ้านเขาแล้ว ตั้งแต่เพลงดังใหม่ ๆ แต่เขาไม่สนใจ

          ส่วนเรื่องคอนเสิร์ต หลายคนสงสัยว่าทำไมตนไม่ร้องกับเขา หยิ่งหรือเปล่า ค่าตัวแพงหรือเปล่า บอกเลยเขาตกลงจะให้ 3,000 บาทต่องาน ซึ่งตอนนั้นตนมาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว เงินจำนวนนี้แทบไม่คุ้มกับค่าเดินทางและไปเล่นคอนเสิร์ต ตนจึงไม่ไป แถมเวลาไปออกรายการก็ได้มารายการละ 500 บาท แต่ 2 รายการหลัง พ่อโทร. ไปคุยว่า 500 บาทมันน้อยเกินไป แค่ค่าแท็กซี่ก็หมดแล้ว      

ส่วนเรื่องที่เขาว่าพ่อโทร. ไปขอส่วนแบ่ง 30% แล้วพูดไม่เหมาะสมนั้น เรื่องนี้ทำให้พ่อโดนด่าและด่ายันตระกูล วันที่พ่อโทร. ไป ครอบครัวได้ยินกันหมด พ่อบอกว่าเพลงมีคนดู 100 ล้านวิวแล้วนะ มีอะไรจะให้น้องไหม แม้แต่คำขอบคุณยังไม่มีให้น้องเลย เขาพูดกลับมาว่าพ่อต้องการเท่าไร ตนมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่น่าพูดออกมา ซึ่งพ่อตนอายุมากกว่าเยอะ หลังคุยกันเสร็จ เขาโอนเงินมาให้ 20,000 บาท และพิมพ์แชตมาขอบคุณ แต่ตนโอนเงินกลับ เพราะรู้ว่าเขาไม่ได้ให้ด้วยใจ เพราะถ้าพ่อไม่โทร. ไป เขาคงไม่คิดถึงตน อีกทั้งไม่พอใจที่พูดกับพ่อตนไม่ดีแบบนั้น วันนี้ตนขอชี้แจงอีกด้าน ขอให้ฟังความทางตนด้วย