เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้าเสื้อส้มปริศนาโยงน้องชมพู่ เจ้าของตัวจริงโผล่ ยืนยันไม่เกี่ยวคดี


22 ก.ค. 2563, 14:52



คืบหน้าเสื้อส้มปริศนาโยงน้องชมพู่ เจ้าของตัวจริงโผล่ ยืนยันไม่เกี่ยวคดี




ความคืบหน้าคดี น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตปริศนาบนเขาภูเหล็กไฟเมื่อวันที่ 14 พ.ค.  โดยมีพยานเห็นผู้ต้องสงสัยใส่เสื้อสีส้มมาอุ้มน้องชมพู่ ซึ่งวานนี้ (21 ก.ค.63) มีคนพบเสื้อส้มคล้ายของผู้ต้องสงสัย ซุกซ่อนบริเวณกอไผ่ 

ล่าสุด (22 ก.ค.63) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จุดพบเสื้อส้มอยู่ในสวนของ อวนวัง ที่ดินติดกับห้วยบุง ห่างจากบ้านของน้องชมพู่ราว 500 เมตร และห่างบ้านลุงพล 600 เมตร หากเดินลัดไปตามห้วยบุงไปหลังบ้านลุงพลก็จะระยะทาง 200 เมตร ถ้าไปทางถนนต้องผ่านบ่อเลี้ยงหนู ซึ่งต้องนี้ไม่ได้ใช้แล้ว กลายเป็นแพลงปลูกผักหวาน ซึ่งอยู่ใกล้กับสวนยางพาราที่เจอเสื้อ ห่างประมาณ 50 เมตร 

 



สภาพเสื้อส้มที่พบ ถูกซุกใต้ขอนไม้ ใกล้กันมีเสื้อยืดสีขาวรัดไว้กับกิ่งไม้ที่ติดพื้น ทางด้านนางชนาภา คนที่เจอเสื้อส้มเผยว่า เจอเสื้อส้มวันที่ 20 ก.ค.63 เวลา 15.00 น. ในวันนั้นตนนัดกับเพื่อน 5 คนคือ เมียผู้ใหญ่ ป้ายเอม แหลม อีกคนขอไม่เปิดชื่อ เพื่อไปหาหน่อไม้ทำกับข้าว  

 

จุดที่พบเสื้ออยู่ในกอหน่อไม้ ต้องรอดเข้าช่องไม้ไปถึงจะเจอ ทางเมียผู้ใหญ่เจอก่อนก็บอกให้ตนดู ต่างคนต่างตกใจและถ่ายรูปเอาไว้ เสื้อมีสภาพเก่าแต่ไม่มาก เป็นเสื้อแจกจากการซื้ออุปกรณ์การเกษตร 

สำหรับจุดที่พบเป็นจุดลับตาคน ติดลำห้วย คิดว่าถ้าคนจะทิ้งก็คงทิ้ง ไม่จำเป็นต้องยัดแบบนี้ เมื่อเจอเสื้อก็นำมาปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน แล้วเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตอนเช้าที่ผ่านมา เพราะอาจเป็นเบาะแสอะไรได้ 

ยอมรับว่าเสื้อมาอยู่ตรงนี้แปลก พอได้ตามข่าวก็รู้สึกสอดคล้องกับคดีเพราะมีคนเห็นชายเสื้อส้ม ตนไม่ทันเห็นว่าใกล้ๆ จุดพบเสื้อมีอะไรอีก เพราะตกใจ เลยออกไปหาจุดอื่นเพื่อเก็บหน่อไม้ และไม่รู้ว่าเจ้าของเสื้อคือใคร 

ด้านแม่น้องชมพู่ เมื่อเห็นเสื้อก็บอกว่า เสื้อตัวนี้ถูกซ่อนไว้นาน เพราะมีปลวกมาเริ่มทำรังที่เสื้อแล้ว ตนมองว่าเหมือนเสื้อที่แถมหลังซื้อรถไถ เพราะตนก็มีเสื้อแบบนี้ ซึ่งเสื้อแบบนี้จะมีได้ก็เมื่อซื้อรถไถ ถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือจ่ายค่างวด คนที่มีจะต้องมีรถไถ และแปลกใจที่มีคนนำมาซุกไว้จุดนี้ คิดว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญด้วย 


ด้านพ่อน้องชมพู่ ได้พานักข่าวไปชมเสื้อส้มที่ตนได้แถมมาจากรถไถ และรถไถ ซึ่งเสื้อของพ่อน้องชมพู่ แตกต่างจากเสื้อที่พบ เพราะเสื้อที่เจอเป็นชื่ออีกร้านหนึ่ง สำหรับภาพตนใส่เสื้อส้มที่เคยถูกเผยแพร่ เป็นภาพครั้งเกี่ยวข้าวที่ถ่ายไว้ 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนี้ใส่ไม่ได้แล้วเพรามันเล็ก 

ข่าวพบเสื้อส้ม ยอมรับว่าตกใจ ตอนแรกนึกว่าใครขโมยเสื้อตนไปซุก แต่พอเห็นชัดๆ ก็เห็นความต่าง เป็นเสื้อคนละบริษัท หลังจากนี้ตนปล่อยให้เป็นกระบวนการของตำรวจ แต่ตนก็แปลกใจที่เสื้อไปติดอยู่ในโพรงแบบนั้น 

แม่น้องชมพู่ ได้เล่าว่า จุดที่พบเสื้อส้มอยู่ใกล้ร่องน้ำที่มีต้นน้ำมาจากภูเขาเหล็กไฟ ตนคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่น้ำจะพัดเสื้อลงมาจากภูเหล็กไฟ เพราะที่ผ่านมาฝนก็ยังไม่ตกหนักขนาดที่น้ำจะไหลหลากสูงถึงระดับพื้นดินที่พบเสื้อ 


อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวอมรินทร์ ได้สำรวจชาวบ้านที่มีรถไถ ในบ้านกกกอด พบว่ามีจำนวน 4 คัน คันแรกเป็นของนายจ่อย (ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน) คันที่ 2 ของนายวัด คันที่ 3 ของนายหลบ คันที่ 4 เป็นของพ่อแบม จนกระทั่งทีมข่าวได้สัมภาษณ์ นายจ่อย  เจ้าของรถไถนาคูโบต้า ซึ่งนายจ่อย ยอมรับว่าเป็นเจ้าของเสื้อตัวนั้น

ย้อนกลับไปปี 2562 ตนไปหาหน่อไม้ที่สวนยางพาราของนายตุง ริมห้วยบุง ตนใส่เสื้อสีส้มตัวนั้นไปหาหน่อไม้ ระหว่างนั้นเกิดระคายเคืองผิวเลยถอด พันเสื้อยัดไว้ใต้ขอนไม้ ตั้งใจให้น้ำพัดเสื้อไปแต่ก็ไม่พัด ส่วนสาเหตุที่ทิ้งเสื้อก็เพราะดำ - สกปรก มีกลิ่นเหม็น 

ตนยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุลักพาตัวน้องชมพู่แน่นอน และไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้เพราะไม่ได้ทำ หากคนร้ายจะสวมรอยเสื้อตนไปใช้ก่อเหตุ ก็ไม่กังวล และจริงๆ ตั้งใจจะไปบอกตำรวจว่าเป็นเสื้อของตน แต่ไม่ได้อุ้มน้องชมพู่ ระหว่างนี้กำลังปรึกษาครอบครัว เพราะตนกลัวจะถูกเป็นแพะ

เบื้องต้น ตำรวจนำหลักฐานไปตรวจหาดีเอ็นเอแล้วว่ามีของใครติดไปหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกับเศษผ้าสีขาวที่เป็นปลอกหมอน คาดว่า เสื้อส้มน่าจะถูกซุกซ่อนเกิน 15 วัน และไม่ได้ถูกน้ำพัดมา






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.