วันที่ 16 ก.ค.63 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้ากรณีน้องเขย คือนายเชิด คนสกุล อายุ 61 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืน .38 ไทยประดิษฐ์ จ่อยิงพี่เขยคือ นายบุญชู กัณหาชาลี อายุ 60 ปี สามีของ นางบรรจง กัณหาชาลี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลประดู่ยืน อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จนเสียชีวิตที่หน้าบ้าน ก่อนวิ่งหลบหนีไป เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น ที่ผ่านมา

โดยทาง พ.ต.อ.โชคอนันต์ สายจันยนต์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเริง งามรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรอุทัยธานี ได้ลงพื้นที่พร้อมทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรอุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสถานีตำรวจภูธรลานสัก กระจายกำลังออกค้นหาตัวนายเชิด ทันที โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงพบตัวนายเชิด ซึ่งนอนอยู่ใต้ต้นปาล์ม ห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร โดยนายเชิดนั้น ยังคงอยู่ในสภาพมึนเมา และนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดนำเอาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ที่ได้นำไปซ่อนไว้ภายในต้นปาล์มออกมา ก่อนถูกคุมตัวเข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที เนื่องจากหวั่นว่าจะมีชาวบ้านเข้ามารุมประชาทัณฑ์

โดยนายเชิดนั้น ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายบรรจงจริง ส่วนสาเหตุที่ได้ลงมือในครั้งนี้นั้นเกิดจากปัญหาความแค้นสะสม ระหว่างผู้ตายมานานหลายเรื่อง โดยเล่าว่า เตือนผู้ตายแล้วหลายครั้งว่า "กูใช้ร่างเก่า วิญญาณใหม่แล้วนะ มึงอย่ามาทำกู" ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีคนนำเอาผงกากเพชรไปเทใส่ในเครื่องยนต์ของรถไถของตน จนต้องเสียเงินซ่อมไป 14,500 บาท ก็เก็บไว้ในใจ เพราะจากการที่ตนสันนิษฐานแล้วก็คาดว่าไม่น่าจะเป็นใครไปได้นอกจาก นายบรรจง รวมทั้งข้าวสารที่เก็บรวมกันไว้ในยุ้งข้าวนั้นก็หายไปอยู่เป็นประจำ และก่อนที่จะก่อเหตุนั้นก็ได้มีปากเสียงกันด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว นายเชิด เข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงมายืนรอดูจำนวนมาก โดยช่วงทำแผนนั้นเริ่มจากที่นายเชิด ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าบริเวณป้าทางเข้าออกบ้านของตัวเองก่อน 2 นัด จากนั้นได้เดินไปที่หน้าบ้านของผู้ตาย ซึ่งขณะนั้นนายบรรจง ได้นอนอยู่ที่เก้าอี้หน้าบ้าน โดยนายเชิดนั้นได้ใช้ปืนยิง นายบรรจง ผู้ตายที่นอนอยู่ไป 1 นัด จากนั้นนายบรรจง ได้ลุกออกจากเก้าอี้ นายเชิด จึงได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงซ้ำเข้าไปอีก 1 นัด จนนายบรรจง นั้นนอนแน่นิ่ง และเสียชีวิต ดังกล่าว