เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตชด.รวบพม่าพาภรรยาแหวกลวดหนามชายแดนไทย ขายแรงงาน


5 ก.ค. 2563, 09:13



ตชด.รวบพม่าพาภรรยาแหวกลวดหนามชายแดนไทย ขายแรงงาน




เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 4 ก.ค.63 ด.ต.ดำเนิน คุ้มสา หัวหน้าชุดการข่าว กองร้อย ตชด. ที่ 146 ด่านสิงขร พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ จันทร์แก้ว ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอเมือง(อส.)ร่วมกับกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ด่านสิงขร ร่วมกันซุ่มเฝ้าจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ บริเวณช่องทางธรรมชาติบ้านหุบผึ้ง หมู่ 5 ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์หอบสัมภาระพร้อมครอบครัว จำนวนกว่า 10 คน แอบรักข้ามตามช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-เมียนมาร์ เพื่อไปขายแรงงานทางภาคใต้ของไทย

 



โดยในระหว่างแอบซุ่มอยู่ในป่าชายแดนไทย-เมียนมาร์ แนวเทือกเขาตะนาวศรี พบกลุ่มชาวเมียนมาร์จำนวนกว่า 10 คน ทั้งหญิงและชาย แบกกระเป๋าสัมภาระเดินตามช่องทางธรรมชาติข้ามภูเขามายังฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้พากันวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งไล่ล่าตามจับกุมตัวมาได้จำนวนทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคู่สามีภรรยากัน ส่วนที่เหลือสามารถวิ่งหลบหนีเข้าป่าทึบไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวที่เหลือมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ตชด.146 ด่านสิงขรพร้อมทำบันทึกจับกุม ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 


โดยชาวเมียนมาร์หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนได้เดินทางมาจากเมืองมอละแม ประเทศเมียนมาร์ เพื่อไปรับจ้างกรีดยางที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดกระบี่ เนื่องจากมีรายได้ดีกว่าอาชีพทำนาในประเทศพม่า โดยได้ฝากลูกน้อยอายุประมาณ1ขวบเศษให้แม่เลี้ยง แล้วชวนภรรยาพร้อมเพื่อนบ้านมาหางานทำ เมื่อได้เงินค่ากรีดยางแล้วก็จะโอนผ่านบัญชีส่งกลับไปให้ที่บ้านเป็นค่าใช้จ่ายและเลี้ยงดูแลลูก โดยก่อนเดินทางได้เสียเงินจ่ายให้ค่านายหน้าชาวเมียนมาร์คนละ 8,500 บาท 2 คนผัว-เมียรวม 17000 บาท เมื่อเดินทางมาถึงชายแดนนายหน้าได้พาเดินทางข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วลัดเลาะข้ามลวดหนามมายังฝั่งไทย จากนั้นจะมีรถมารับไปส่งยังจุดหมาย แต่มาถูกจับได้เสียก่อนทำให้ไม่ได้ไปทำงาน และยังสูญเงินค่านายหน้าไปฟรีๆอีกด้วย

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดนปิดกั้นล้อมรั้วลวดหนาม บริเวณช่องทางธรรมชาติไทย-เมียนมาร์ จำนวนหลายจุดเพื่อสกัดกั้นแก้ปัญหาการค้าแรงงานเถื่อน และขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายต่างๆข้ามมายังฝั่งไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ประกอบด้วย ช่องทางธรรมชาติน้ำตกวังเป้า หมู่ 12 ตำบลอ่าวน้อย ช่องทางธรรมชาติด่านสิงขรหมู่ 6 ตำบลคลองวาฬ ช่องทางธรรมชาติบ้านหุบผึ้ง หมู่ 5 ตำบลห้วยทราย ช่องทางธรรมชาติหุบตะเคียน บ้านโป่งเกตุหมู่ 7 ตำบลห้วยทราย เป็นต้น

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.