เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



หนุ่มใหญ่เฝ้าไร่ คว้าลูกซองยิง ช้างป่ากุยบุรีสิ้นใจตัวที่ 4 อ้างจวนตัวหวั่นเกิดอันตราย


28 มิ.ย. 2563, 09:55



หนุ่มใหญ่เฝ้าไร่ คว้าลูกซองยิง ช้างป่ากุยบุรีสิ้นใจตัวที่ 4 อ้างจวนตัวหวั่นเกิดอันตราย




เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุช้างป่าถูกยิงตายในสวนยาง บ้านรวมไทย ม.7ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงส่งเจ้าหน้าที่พร้อมแจ้งไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านยางชุม ร่วมตรวจสอบ

 

 



ที่เกิดเหตุ อยู่ในสวนยางของชาวบ้าน อยู่ด้านหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่า บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากุยบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) ภายในสวนยางพบช้างสีดอ เพศผู้ อายุประมาณ 25-30 ปี สูง 270 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน นอนล้มอยู่ในร่องน้ำ ลักษณ์หัวทิ่มอยู่ในร่องน้ำ มีเลือดไหลออกจากหัวใกล้กับกกหู และบริเวณใบหน้า ตรวจสอบพบว่าเป็นแผลที่ถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งทราบตัวผู้ยิงว่าคือ นายณรงค์ อรภักดี ชาวบ้านที่เฝ้าไรอยู่ในบริเวณใกล้กับที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ยางชุมต่อไป โดยนายเบื้องต้นนายณรงค์ยอมรับว่าเป็นคนยิงจริงเนื่องจาก ช้างตัวดังกล่าววิ่งมาทางตัว เมื่อเห็นว่าจวนตัวจึงได้ยิงปืนใส่ไป 1 นัด เนื่องจากกลัวว่าจะโดนช้างทำร้ายเหมือนเหตุการณ์ช้างเหยียบคนเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นั้นอยู่ห่างกันไม่เกิน 100 เมตร

 


จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งว่ามีช้างออกมารบกวนพืชไร่ของชาวบ้าน จึงได้ทำการผลักดันให้กลับเข้าป่า ซึ่งช้างสีดอตัวดังกล่าวได้หนีมา โดยมุ่งหน้ามาทางโครงการกุญชร และผ่านสวนยางซึ่งมีนายณรงค์เดินเฝ้าอยู่ และมุ่งตรงทาทางนายณรงค์ จนถูกนายณรงค์ยิงสวนจนตายคาที่ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนนายณรงค์อีกครั้งหนึ่งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนซากช้าง ทางอุทยานแห่งชาติกุยบุรีได้ส่งจ้าหน้าที่เฝ้าเอาไว้ โดยจะมีตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบในตอนเช้าและทางทีมสัตวแพทย์จากกรมอุทยานจะทำการผ่าพิสูจน์หาร่องรอยของกระสุนต่อไป โดยช้างป่ากุยบุรีตัวนี้ ถือเป็นช้างป่าที่ตายเป็นตัวที่ 4 ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.