เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยมงคล ไชยรบ  นายก อบจ.สกลนคร   และคณะ  ได้ออกไปตรวจสอบสถานการณ์ภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง   ในพื้นที่บ้านคำผักแพว ต.โนนหอม อ.เมือง  และ บ้านหนองยาง ต.พังขว้าง อ.เมือง เนื่องจากได้รับทราบจากโลกโซเชียลว่า  ชาวนากำลังประสบกับความเดือดร้อนเนื่องจากฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ ต้นข้าวที่ลงทุนปักดำกำลังยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย ผืนดินที่เคยชุ่มฉ่ำกลับแปรสภาพเป็นแห้งแล้ง มีชาวนาบางรายเพียงแค่ไถไว้เพื่อรอฝนตกลงมาจึงจะปักดำ บางรายปลูกข้าวไปแล้วต้องไถทิ้งแล้วปักดำใหม่รอบสอง บางรายก็รอฝนตกลงมาจนไม่ได้ปลูกข้าว  ซึ่งพื้นที่ปลูกข้าวของจังหวัดสกลนคร  กว่า 2,600,000 ไร่ แต่จากปัญหาฝนทิ้งช่วงดังกล่าว ทำให้มีการปลูกแค่ 1 ล้านไร่

โดยต้นข้าวที่ปลูกไปนี้  หากไม่มีฝนตกลงมา อีกไม่เกิน 7 วัน ต้นข้าวก็คงจะตายหมด  โดย  นายหลักชัย  หาญมนตรี หรือผู้ใหญ่กบ อดีต สจ. 5   สมัย ชาวบ้านคำผักแพว ต.โนนหอม กล่าวว่า นาข้าวของตนและของชาวบ้านอื่นๆ กว่า 1 พันไร่ มีสภาพไม่ต่างกันเท่าใดนัก เพราะดินแห้งผากจนเป็นผุยผง ไม่มีแหล่งน้ำหรือลำห้วยเพื่อใช้เป็นน้ำต้นทุน ถึงมีก็แห้งขอดไปจนหมด ซึ่งพวกตนก็หมดปัญญาจะไปแก้ไข  ต้องรอเพียงฟ้าฝนที่จะตกลงมาเท่านั้น

 

นายธีรยุทธ  ส้มแป้น ผู้ใหญ่บ้านหนองยาง  ม.5 ต.พังขว้าง ที่บอกว่าไม่มีทางแก้ไขแล้ว หากฝนไม่ตกลงมาชาวนาก็คงแย่ นอกจากนี้  ฝายน้ำล้นในหมู่บ้าน ซึ่งเคยมีน้ำอยู่เพียงพอ แต่จากฤทธิ์พายุเซินเมื่อ ปี 2560 ทำให้ฝายน้ำล้นขาดชำรุด อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลด้วย  

นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร บอกว่า ขณะนี้ความเดือดร้อนมีไปทุกหย่อมหญ้า อาจจะมีทั้งหมด 18 อำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง   ดังนั้น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะต้องไปพูดคุยเจรจากันทั้งระบบเพื่อหาทางแก้ปัญหา  ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปัญหาก็คือไม่มีแหล่งน้ำทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดแคลนรายได้  

ขณะนี้ เกษตรจังหวัดสกลนคร ได้ทำหนังสือมาถึงตน   เพื่อขอให้ประสานไปยังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ในการสร้างฝนเทียมสำหรับการแก้ปัญหาความแห้งแล้งในพื้นที่การเกษตร ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนเรื่องฝายที่ชำรุดก็ให้ประชุมในหมู่บ้านแล้วทำเรื่องเสนอมาเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป