เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บุกค้นบ้าน "ลูกจ้างสาว" สำนักงานจังหวัดประจวบฯ โกงเงิน 33.9 ล้าน พบหลักฐานสำคัญเพียบ


24 มิ.ย. 2563, 08:23



บุกค้นบ้าน "ลูกจ้างสาว" สำนักงานจังหวัดประจวบฯ โกงเงิน 33.9 ล้าน พบหลักฐานสำคัญเพียบ




วันที่ 23 มิ.ย. 63 พลตำรวจตรีสุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมด่วนชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบและชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบ ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตั้งคณะทำงานติดตามความคืบหน้าของคดีและเส้นทางการโอนเงิน ของนางสาวขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่ง นักวิชาการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบ หลังก่อเหตุปลอมแปลงเอกสารยักยอกเงินของทางราชการ จำนวน 33.9 ล้านบาท ว่ามีผู้ร่วมขบวนการ หรือมีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง

 

 

 



โดยหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ทางด้านร้อยตำรวจเอกหญิงสุภาภรณ์ ดวงกันยา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองประจวบเจ้าของคดี ได้เชิญคลังจังหวัดประจวบมาสอบปากคำ โดยสำนักงานคลังจังหวัดประจวบได้มอบหมายให้ ผอ.ฝ่ายการเงินและเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินรวม 2 คน มาสอบปากคำถึงแนวทางและวิธีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในขณะที่ผู้ต้องหาปฏิบัติงานอยู่ จากนั้นต่อมาในช่วงเย็นของวันนี้เวลาประมาณ 16.00 น.ทีมชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบ นำโดย พ.ต.ท.พิธี อินทร์น้อย รอง ผกก.สส. สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำหมายค้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ ค. 86/263 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เข้าค้นบ้านเลขที่ 82/21 ถนนเพชรเกษม หมู่ 8 บ้านนาทอง ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบ ซึ่งเป็นบ้านพักของนางสาวขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี นักวิชาการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยในขณะตรวจค้นมี นายธัญเทพ กิตติธากรณ์ อายุ 28 ปี ลูกจ้าง ตำแหน่งช่างไฟฟ้า สำนักงานจังหวัด(สามี) นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี (มารดา) เป็นผู้นำตรวจค้นภายในห้องนอนของผู้ต้องหา

 

 

 


เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเอกสารการเงินส่วนตัวและเอกสารของทางราชการจำนวนมาก ประกอบสมุดเช็คงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ฉบับ ภายในปรากฎการลงลายมือของผู้มีอำนาจสั่งจ่าย โดยไม่ได้กรอกตัวเลขจำนวนเงินและชื่อบุคคลที่สั่งจ่าย สมุดบัญชีหลายธนาคาร จำนวน 18 เล่ม บัตรเครดิตและบัตร เอทีเอ็ม 22 ใบ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง ซีพียูคอมพิวเตอร์ 1 ชุด โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง สมุดทะเบียนคู่มือรถจักรยานยนต์ 1 เล่ม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสมุดบัญชีบางเล่มการบันทึกรายการเบิกจ่ายผ่านระบบในวันที่ 30 เมษายน 2563 มีเงินเข้าบัญชี 20 รายการวงเงิน 5.9 ล้านบาทโดยผู้ต้องหาใช้บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงเทพในการโอนเงินเข้าและถอนไปบัญชีอื่นโดยใช้ระบบอีแบงค์ โดยล่าสุดมีการถอนเงินออกจากบัญชีส่วนตัวธนาคารไทยพานิชย์ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.63 จำนวน 530000 บาท ก่อนถูกจับกุมได้ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

 

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.