เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครั้งแรกในไทย ลุยจับค้างคาวมงกุฎในถ้ำกลางป่า จันทบุรี หวั่นเชื้อไวรัสโควิด-19


12 มิ.ย. 2563, 18:12



ครั้งแรกในไทย ลุยจับค้างคาวมงกุฎในถ้ำกลางป่า จันทบุรี หวั่นเชื้อไวรัสโควิด-19




วันที่ 12 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 18.00 น.-03.00 น.ของคืนวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่ถ้ำสะดอ หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” พร้อมด้วยด็อกเตอร์สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี จากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ คนไทยคนแรกที่ค้นพบเชื้อไวรัสโควิด 19 ในไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ร่วมกันตรวจหาค้างคาวภายในถ้ำดังกล่าว โดยมุ่งเน้นไปที่การค้นหาค้างคาว “มงกุฎ” พบว่า มีอยู่จำนวนหนึ่ง จึงจับมากว่า 100 ตัว นำมาตรวจสอบ เลือด น้ำลาย และอุจจาระ ก่อนนำตัวอย่างที่เก็บได้จากค้างคาวชนิดนี้ไปหาเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างละเอียดในห้องแล็ปต่อไป

 



ต่อมาในเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่โรงเรียนบ้านคลองคต หมู่ 7 ต.หนองตาคง  อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายสัตวแพทย์ภัทรพล , ด็อกเตอร์สุภาภรณ์ และคณะ ร่วมกันให้ความรู้การมีเชื้อโรคในค้างคาวแก่ผู้นำชุมชน ครูและนักเรียนโรงเรียนดังกล่าว พร้อมกับมอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และสิ่งของอื่น ๆ ที่ได้รับการบริจาคจาก “วชิรวิชญ์ ชีวอารี” หรือ “ไบร์ท” นักแสดงชื่อดังกล่าว ให้โรงเรียนและผู้นำชุมชนไปใช้ประโยชน์ด้วย โดยในการให้ความรู้ คณะของหมอล็อตทราบจากผู้นำชุมชนว่า ปัจจุบันชาวบ้านบางส่วนใน อ.โป่งน้ำร้อน ยังนิยมกินค้างคาวเป็นอาหาร เนื่องจากค้างคาวมากินลำไยของชาวบ้านเป็นประจำ เป็นสัตว์ที่หากินได้ง่าย จึงพากันจับกิน จากนั้นนายสัตวแพทย์ภัทรพล , ด็อกเตอร์สุภาภรณ์ และคณะ พากันก่อนเดินทางไปยังสวนลำไยหลายแห่งใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ให้ความรู้กับชาวสวนในเรื่องการเฝ้าระวังไวรัสโควิด 19 ที่มาจากค้างคาว

 

 

ด็อกเตอร์สุภาภรณ์ เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องเริ่มมีการตรวจสอบค้างคาวมังกุฏ เนื่องจากมีรายงานจากประเทศจีนว่า ไวรัสโควิด 19 ที่กำลังแพร่ระบาดในคนมีลักษณะเดียวกันกับไวรัสที่พบในค้างคาวมุงกุฏ ที่สำคัยได้มีการพบค้างคาวชนิดนี้ในไทยด้วย ในเมืองไทยมีค้างคาวมุงกุฏถึง 23 สายพันธุ์ จึงจำเป็นต้องค้นหาโรคและไวรัสโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฏทุกสายพันธุ์ในเมืองไทยมี และเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฏอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ การวิจัยเรื่องโรคจากค้างคาวที่เมืองไทยทำมาเกือบ 20 ปี ยังไม่เคยมีการตรวจสอบค้าวคาวมุงกุฏแต่อย่างใด จึงยังไม่มีข้อมูลว่าค้างคาวมุงกุฏมีเชื้อไวรัสโควิด 19 หรือไม่ ซึ่งจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนต่อไป

 


ด็อกเตอร์สุภาภรณ์ เปิดเผยต่อไปว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้ามองการพบเชื้อไวรัสโควิด 19 ในค้างคาวมุงกุฏแบบเดียวที่พบค้างคาวสายพันธุ์นี้ในประเทศจีน เมืองไทยก็มีโอกาสจะพบเชื้อไวรัสนี้ แต่อัตราการติดเชื้อจะมีโอกาสมากหรือน้อย  ต้องตรวจสอบกันต่อไป ส่วนเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่จะหมดไปจากเมืองไทย ไวรัสเดียวกันนี้จะกลับเกิดขึ้นในไทยจากค้างคาวมุงกุฏหรือไม่อย่างไร ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์การกินอาหารของคนไทย หากไม่กินค้างคาวก็ยากจะได้รับเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่ที่เป็นห่วงคือคนที่ยังนิยมกินค้างคาวเป็นอาหาร มีโอกาสจะติดเชื้อได้ง่ายอย่างยิ่ง

 

 

ด้านนายสัตว์แพทย์ภัทรพล เปิดเผยว่า เป็นที่น่ากังวลที่ยังมีคนนิยมกินค้างคาว เพราะมีความเชื่อผิด ๆ การกิน การจับ มีโอกาสจะได้รับเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคใด ๆ ก็ได้ จึงจำเป็นต้องทำคู่มือว่าด้วยเรื่องการอยู่ค้างคาวอย่างปลอดภัยแจกจ่ายให้ประชาชน ขณะนี้กลุ่มนักวิจัยกำลังศึกษาเส้นทางการอพยพ เส้นทางการหากินของค้างคาว โดยเน้นไปที่ค้างคาวมุงกุฏ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสหรือโรคที่มจากค้างคาวในอนาคต เป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับไวรัส แต่วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุด คือการไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติหรือบุกรุกป่า ไม่ล่า ไม่ค้าสัตว์ป่า เชื้อโรคใด ๆ จากสัตว์ป่าก็ไม่สามารถมาสู่คนได้

 

 

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.