เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เมืองกรุงเก่า" เผาทำลายกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ น้ำหนักรวม 13 ตัน


12 มิ.ย. 2563, 13:51



"เมืองกรุงเก่า" เผาทำลายกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ น้ำหนักรวม 13 ตัน




วันที่ 12 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นาย พรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รอง ผวจ. พระนครศรีอยุธยา  พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ปปส. ร่วมเป็นประธานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ได้ น้ำหนักรวม 13 ตัน โดยมี  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการเผาทำลาย

 

 



นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส กล่าวว่า กัญชาที่นำมาเผาในครั้งนี้ เป็นกัญชาของกลางน้ำหนักรวม 13 ตัน  จะถูกเผาทำลายด้วย วิธีไพโรไลติก อินซิเนอะเรชั่น (Pyrolytic Incineration) ที่อุณหภูมิสูงไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อม กัญชาที่นำมาเผา ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ขออนุญาตครอบครอง ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้  ประกอบกับไม่มีผู้ขอไปทำการศึกษาวิจัย เนื่องจากในกัญชาของกลางนี้ มีสารปนเปื้อน มีสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน บางส่วนมีเชื้อรา โดยการเผาทำลายของกลางกัญชา เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้าที่ได้เผาทำลายไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 น้ำหนักจำนวน 10 ตัน รวมทั้งสิ้นที่เผาทำลาย น้ำหนักรวม 23 ตัน

 

 

 


จากการตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ว่ากัญชาที่จับยึดได้ไม่ว่าจะห่อหุ้มด้วย แผ่นฟอยล์  เช่น สีม่วง แดง ทอง เงิน หรือห่อด้วยแผ่นพลาสติกทั้งที่มีด้ายแดงหรือไม่มี ล้วนลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งหมดพบมีสารปนเปื้อนไม่ว่าจะเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือโลหะหนักมากเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย  จึงเท่ากับว่าหากมีการเสพกัญชาเหล่า เท่ากับการนำเอาสารเคมี เข้าสู่ร่างกาย และจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้ ผู้เสพได้แสดงตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา ส่วนของกัญชา ยังคงเป็นยาเสพติดมีความผิดตามกฎหมาย

โดยทางรัฐบาล มีนโยบายผ่อนปรนให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงเดินหน้า ขอใช้ประโยชน์จากกัญชาที่จับยึดได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการสนับสนุนให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มีความต้องการจะดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับกัญชา ขอให้ติดต่อสอบถามได้ที่  สำนักงาน ป.ป.ส.

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.