เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"2 สามีภรรยา" ทิ้งงานก่อสร้าง หันมาปลูกพืชผักครัว สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ


3 มิ.ย. 2562, 11:27



"2 สามีภรรยา" ทิ้งงานก่อสร้าง หันมาปลูกพืชผักครัว สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ




นายมานะ ประจิกกิต อายุ 50 ปี และ นางวาสนา ประจิกกิต อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ 1 ต.ทะเลทรัพย์ อ.ปะทิว จ.ชุมพร เปิดเผยว่า อดีตเคยทำการเกษตรปลูกผักแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้กลับไปทำงานก่อสร้างอีกครั้งหลังจากเคยหันหลังให้กับอาชีพรับจ้างมาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ตนเองไม่มีเงินทุนเพียงพอ แต่ความพยายามที่จะกลับมาทำอาชีพเกษตรยังไม่ย่อท้อ ตนเองและภรรยา จึงออกจากงานมาทำเกษตรอีกครั้ง ส่วนตัวเป็นคนชอบทำเกษตรอยู่แล้ว ตนเองมีที่ดิน 10 ไร่ 7 ไร่ ปลูกยางพารา ส่วนอีก 3 ไร่ จะปลูกบ้านและปลูกพืชผักสวนครัวและพืชผักที่ใช้ปรุงอาหารในครัว รวมไปถึงสระน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรและใช้ในครัวเรือน พื้นที่ 3 ไร่ จะปลูกมะเขือ พริก มะนาว ถั่วฝักยาว ขิง ข่า ตะไคร้ ชะอม ใบเหลียง ผักกรูดและใบเตย พืชแต่ละชนิดจะมีการปลูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

นายมานะ เล่าให้ฟังว่า การปลูกแต่ละอย่างจะไม่ปลูกมากเพราะจะมีปัญหาตอนส่งขาย หากมากเกินไปก็จะขายยาก ปัจจุบันพื้นที่บริเวณดังกล่าวปลูกมะเขือ อายุในการเก็บเกี่ยวประมาณ 1 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลบำรุงรักษา ในการเก็บผลผลิตในช่วงฤดูแห้งแล้งจะเก็บวันเว้นวัน แต่ในช่วงฤดูฝนจะเก็บทุกวัน ส่วนใบเตยจะเก็บอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30-40 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งในบางช่วงไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และยังมีลูกเนียงซึ่งเป็นผักพื้นบ้านที่สามารถเก็บขายได้ตามฤดูกาลวันละหลายร้อยบาท

ส่วนพืชผักอื่นๆ ก็สามรถเก็บเกี่ยวตามรอบและระยะเวลาสับเปลี่ยนกันไป งานทุกอย่างในสวนจะช่วยกันทำกัน 2 คน สิ่งสำคัญคือไม่ใช้สารเคมี จะใช้ปุ๋ยหมักในการฉีดบำรุง และใช้ใบยาสูบกับตะไคร้หอมเป็นส่วนผสมในการไล่หนอนและแมลงที่จะมาทำลายผลผลิต ซึ่งใบยาสูบกับตะไคร้ก็ปลูกเองไว้ในสวน การปลูกผักจะใช้ต้นทุนในการลงทุนให้น้อยที่สุด เพราะราคาผลผลิตไม่แน่นอน แต่หากเราลงมือทำด้วยตัวเราเอง ถึงแม้ราคาผลผลิตจะตกต่ำแต่หากลงทุนน้อยเราก็จะไม่ขาดทุน

นายมานะ กล่าวด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มและภูมิใจ ที่ตนเองและภรรยาไม่ต้องไปทำงานรับจ้าง ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ได้ทำงานที่ตนเองรัก ซึ่งในแต่ละวันจะได้เงินเฉลี่ย วันละไม่ต่ำจาก 300 บาท ไปจนถึงวันละ พันกว่าบาท ชีวิตมีความสุขมากขึ้นลูกเมียได้กินได้ใช้มีเงินซื้อนมให้ลูกได้กินมากกว่าทำงานรับจ้าง มีเวลาได้พาลูกไปเที่ยวพักผ่อน มีเงินซื้อรถมือสองที่พอเอามาใช้เวลาเอาผักไปขาย ส่วนหนึ่งได้นำเงินไปซ่อมแซมและต่อเติมบ้าน ชีวิตที่อยู่อย่างพอเพียงเดินตามรอยเท้าพ่อ ชีวิตก็อยู่ได้อย่างมีความสุข

และด้วยความมานะเหมือนชื่อ และใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามรอย รัชกาลที่ 9 ทางมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ด้านการกักเก็บน้ำและระบบกระจายน้ำ ให้กับ นายมานะ เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ด้านการใช้น้ำเพื่อการเกษตรให้กับนายมานะอีกด้วย

 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.