ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.63) เกิดเหตุฝนตกหนักในจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง และน้ำระบายไม่ทันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครภูเก็ต ถนนพังงา ถนนระนอง ถนนสุรินทร์ ถนนเยาวราช ซอยอ่าวเกในถนนตะกั่วป่า สามแยกซอยภูธร ชุมชนถนนหลวงพ่อ ซอยกอไผ่ ในบางจุดมีระดับน้ำสูงประมาณ 30 - 50 เซนติเมตร ส่งผลให้การจราจรลำบาก บางจุดมีน้ำเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน

ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวงศกร นุ่นชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ร่วมกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ เทศบาลนครภูเก็ต ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ ประกอบกับฝนหยุดตกในเวลาต่อมา ทำให้น้ำที่ท่วมขังลดระดับลงอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และเน้นย้ำมาตรการ จังหวัดจึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งดำเนินการ ดังนี้ ติดตามสถานการณ์ข้อมูลสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำ อย่างใกล้ชิด และสื่อสารสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ อย่างทั่วถึง เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงเพื่อเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งเร่งระบายน้ำ และเปิดทางน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หรือพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน

ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งทำการขุดลอกท่อระบายน้ำ ดูดเลน ทำความสะอาดร่องน้ำ เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางทางระบายน้ำ โดยเฉพาะในฟื้นที่เขตชุมชนและเส้นทางคมนาคมที่มักเกิดน้ำท่วมขัง
และเร่งกำจัดวัชพืช ขยะ สิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้สามารถรองรับน้ำฝน และน้ำจากท่อระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนอาสาสมัคร และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันเฝ้าระวัง และปรับภูมิทันพัฒนาพื้นที่ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ วัชพืช

พร้อมทั้ง ดำเนินการตามมาตรการรองรับสถานการณ์ฤดูฝนของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช) 8 มาตรการ